มรสุม โลหิต ธนาธร อนาคตใหม่ มีสติ รอบคอบ
คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
มรสุม โลหิต ธนาธร อนาคตใหม่ – หากใครติดตามการเคลื่อนไหวล่าสุด การก้าวเดินของ “ฟิวเจอริสต้า” ครั้งที่ 1 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ก็อาจจะมองพรรคอนาคตใหม่ด้วยสายตาแปลกๆ
แปลกตรงที่เป็นงานอันเกิดขึ้นในท่ามกลาง “มรสุม”
เป็นมรสุมซึ่ง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประสบจากมาตรา 116 และจากกรณีหุ้นสื่อ เป็นมรสุมซึ่ง นายปิยบุตร แสงกนกกุล ประสบจากกรณีหมิ่นศาลรัฐธรรมนูญ
แล้วเหตุใดจึงยังสามารถเฮฮา ปาร์ตี้กันได้
แต่เมื่อติดตามผ่านการไลฟ์ 2 ช่วงสำคัญจากร้านสุดสะแนน โดยการดำเนินรายการของ “พี่เบีย” ก็เริ่มสัมผัสได้ในจุดต่างอันเป็นเอกลักษณ์ของพรรคอนาคตใหม่
ต้องยอมรับว่า ณ เบื้องหน้ามรสุมโลหิตอันถาโถมมาจากการเคลื่อนไหวของคสช. ประสานเข้ากับความเอาการเอางานของกกต.
พรรคอนาคตใหม่มิได้อยู่ในลักษณะสยบยอม
เห็นได้จากการเดินทางไปต่างประเทศของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป้าหมายมิได้ไปเที่ยว หากแต่ไปทำงาน เก็บดอกออกผล
เพราะเป้าหมายคือสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชน สหประชาชาติ
เห็นได้จากในประเทศ บทบาทของ นายปิยบุตร แสงกนกกุล มิเพียงชี้แจงอย่างชนิดวันต่อวัน หากแต่พร้อมยืนอยู่ท่ามกลางมวลชนด้วยความคึกคัก
มีการคาดหมายก่อนหน้านี้แล้วว่าพลันที่มรสุมบังเกิด ปรากฏการณ์ 1 ก็คือภาวะระส่ำระสาย เกิดการแตกแยกและแยกตัว อันนำไปสู่โอกาสของ “งูเห่า”
เพราะว่าว่าที่ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ล้วนเป็นคนหน้าใหม่
ปรากฏการณ์ 1 ก็คือการโทษกันเอง โดยเฉพาะจากผู้มากด้วยประสบการณ์และความจัดเจนในทางการเมือง
ประโยคอมตะที่ว่า “รู้งี้” ก็จะตามมาอย่างคึกคัก
นั่นก็คือ ทุกคนสรุปจากสภาพที่พรรคการเมืองโดยทั่วไปประสบและถึงกาลสิ้นสุด แต่มิได้สรุปจากสภาพความเป็นจริงของพรรคอนาคตใหม่
ตรวจสอบจากความเห็นไม่ว่าจะจาก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่ว่าจะจาก นายปิยบุตร แสงกนกกุล ต่างยอมรับว่าได้คาดหมายเอาไว้ก่อนแล้ว
เพียงแต่นึกไม่ถึงว่าจะรุนแรงระดับนี้
การต่อสู้และปกป้องตัวเองอย่างดีที่สุดของพรรคอนาคตใหม่จึงต้องมีสติ มีความสุขุม อาศัยข้อดีที่สะสมมาในห้วง 1 ปีเป็นเหมือนผนังทองแดง กำแพงเหล็ก
เช็ดคราบเลือดแล้วก็ก้าวเดินต่อไป