ธนาธร ลั่นไม่ได้ทำอะไรผิด เชื่อ กกต. ถูกกดดัน ให้กำลังใจทำหน้าที่อย่างเที่ยงธรรม
เมื่อวันที่ 25 เม.ย. ที่อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศขาเข้า ประตู 7 สนามบินสุวรรณภูมิ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ได้เดินทางมาถึงประเทศไทยแล้ว หลังกลับจากการศึกษาดูงานหลายประเทศในยุโรป
โดยนายธนาธร ได้กล่าวถึงกรณีที่ถูก กกต. แจ้งข้อกล่าวหาปมถือครองหุ้นสื่อ บริษัท วี-ลัค มีเดีย ว่า ต้องขอขอบคุณทุกคน ขอบคุณชาวอนาคตใหม่ ที่มาต้อนรับการกลับมาเมืองไทย ขวัญกำลังใจพวกเรายังดี เราเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ จึงไม่มีอะไรต้องกังวล สำหรับแนวทางการต่อสู้ ตนต้องขอดูเอกสารจาก กกต. เพราะกกต. แจ้งว่าให้เวลาพรรคอนาคตใหม่ 7 วัน ในการเข้าชี้แจงข้อกล่าวหา ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด จะต้องนัดวันเพื่อเข้าพบชี้แจงกับ กกต. โดยพรุ่งนี้จะติดต่อไปที่ กกต.
นายธนาธร กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ ตนยังไม่ได้ถูกเชิญเข้าไปให้ชี้แจง นี่เป็นครั้งแรก ส่วนครั้งที่แล้วมีหนังสือเชิญให้ชี้แจงไปที่คุณแม่ของตน คือคุณสมพร ทนายจึงไปชี้แจงในนามคุณแม่ แต่ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่ตนจะได้มีโอกาสชี้แจงด้วยตัวเอง ตนไม่มีข้อกังวล เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด การโอนหุ้นทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เรียบร้อยไปตั้งแต่ต้นเดือน ม.ค.
นายธนาธร กล่าวอีกว่า เราต้องให้กำลังใจ กกต. เพราะเชื่อว่ามีเจ้าหน้าที่ กกต. เยอะแยะไปหมดที่หวังดีต่อประเทศ อยากให้ประเทศเดินไปข้างหน้า และตระหนักดีต่อการทำหน้าที่อย่างเที่ยงธรรม เราต้องให้กำลังใจเจ้าหน้าที่เหล่านั้น ตนหวังว่า กกต. จะมองเห็นว่า การทำงานที่บริสุทธิ์ จะนำประเทศไปข้างหน้าได้ แต่ถ้าทำไม่บริสุทธิ์ ทำให้ประชาชนกังขา นั่นจะนำไปสู่ความวุ่นวาย เพราะประชาชนตั้งความหวังไว้กับการเลือกตั้งครั้งนี้ไว้มาก
เมื่อถามถึงกรณีที่ กกต.เตรียมให้ใบส้ม นายธนาธร กล่าวว่า การให้ใบส้มให้อำนาจชี้ขาดสุดท้ายอยู่ที่กกต. เรามั่นใจมากว่าใบส้มบังคับใช้กับกรณีของตนไม่ได้ เรายืนยันเรื่องหุ้นมาตั้งนานแล้ว
เมื่อถามว่ามีการวิจารณ์ถึงการโอนหุ้นให้แม่นั้นตัวนายธนาธร อยู่ต่างจังหวัด ซึ่งกลับมาโอนไม่ทัน นายธนาธร กล่าวว่า คนที่บอกว่าตนมาไม่ทัน ไม่มีหลักฐานว่าตอนบ่ายวันนั้น ตนอยู่ที่ไหน คนที่บอกว่าตนอยู่บุรีรัมย์ ถ้าตนเดินรณรงค์หาเสียง ที่จ.บุรีรัมย์ ช่วงบ่ายก็ต้องมีรูปภาพ หรือมีใครอัดคลิปวิดีโอ ออกมาแล้ว ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการที่เราชี้แจง
เมื่อถามถึงกกต.เตรียมตรวจสอบการส่งผู้สมัครที่ขาดคุณสมบัติอาจเป็นเหตุให้โดนอีกคดี นายธนาธร กล่าวว่า มีผู้สมัครส.ส. ของพรรคเกือบ 500 คน ไม่สามารถรู้ได้ว่าผู้สมัครคนไหนมีประวัติอะไรบ้าง เชื่อว่าพรรคอื่นก็เป็นเหมือนกัน เรื่องนี้ไม่ได้กังวลใจ อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าคำวินิจฉัยของ กกต. คงไม่ออกมาทางลบ เพราะเชื่อมั่นว่าไม่มีความผิด ไม่มีข้อหาอะไรจะมาเอาผิดได้ ฉะนั้น เราไม่กังวลแล้ว
เมื่อถามว่าทำไม กกต.ตั้งข้อกล่าวหา นายธนาธร กล่าวว่า เชื่อว่ามีแรงกดดันทางการเมืองเข้ามาที่ กกต. ดังจะเห็นว่าประธานอนุกรรมการที่ถูกตั้งขึ้นมาสอบสวนกรณีตนได้ลาออกไป ตนไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นเรื่องของธนาธร เชื่อว่าคนที่มาให้กำลัง ไม่ได้ให้กำลังใจธนาธร เพราะเป็นธนาธร แต่ให้กำลังใจ เพราะประชาธิปไตย และต้องการเห็นความยุติธรรมเกิดขึ้นในประเทศไทย ทุกคนไม่ได้มาปกป้องหรือมารักษาธนาธร แต่มารักษาประชาธิปไตย
เมื่อถามถึงการคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ นายธนาธร กล่าวว่า อยากฝากถึง กกต. ให้รับทราบถึงความต้องการของประชาชนที่พยายามติดตามประเด็นนี้มาอย่างต่อเนื่อง การเลือกวิธีการคำนวณแบบใดแบบหนึ่งก็แล้วแต่ อาจส่งผลถึงทิศทางการพัฒนาของประเทศ กกต.ควรตัดสินใจให้ตั้งอยู่บนหลักกฎหมาย และหลักการที่ถูกต้อง หลักการที่ถูกต้องจะปกป้องตัวท่านเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธนาธรเดินทางกลับมายังประเทศไทยด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แววตามุ่งมั่น โดยมีประชาชนจำนวนมากได้มายืนรอต้อนรับ พร้อมมอบดอกไม้ให้กำลังใจ และชูป้ายสนับสนุน เช่น #StandWithThanathon ทั้งยังชูสามนิ้วสัญลักษณ์ต่อต้านเผด็จการ และกรี๊ดตะโกนเชียร์ธนาธรสู้ๆ ดังกึกก้องทั่วบริเวณ ทำให้นายธนาธรถึงกับยิ้มตื้นตัน
จากนั้นนายธนาธรได้ล้อมวงกับประชาชนที่มาให้กำลังใจ พร้อมพูดว่า “ขอบคุณทุกคนที่มาที่นี่ ผมขอบอกว่า อย่าให้เรื่องนี้เป็นเรื่องของธนาธร เพราะมันไม่ใช่ ต้องให้เรื่องนี้เป็นเรื่องของความเป็นธรรม เชื่อว่าทุกคนไม่ได้มาเพื่อปกป้องธนาธร เรามาเพื่อปกป้องประชาธิปไตย เพื่อปกป้องความเป็นธรรม ไม่ใช่เรื่องของคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นเรื่องความเป็นธรรมของสังคม ขอบคุณทุกคนมาก”
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
