บทเรียนการเมือง ของ สมศักดิ์ พลังประชารัฐ กับ เสนาะ เทียนทอง

คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง

บทเรียนการเมืองหากในที่สุดของการจัดครม. ตำแหน่งที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ได้มาก็คือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แทนที่จะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ก็น่าเห็นใจเป็นอย่างยิ่ง

เพราะไม่เพียงแต่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน จะหมายปองกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มาตั้งแต่ต้น หากแต่ทุกการทุ่มเทให้กับการเลือกตั้งครั้งนี้ก็วางเดิมพันอยู่ตรงนี้

ตั้งแต่ยังเป็น “สามมิตร” กระทั่งมาเป็นประธาน “ยุทธศาสตร์”

ในที่สุดที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เคยสรุปว่า “รัฐธรรมนูญฉบับนี้ DESIGN มาเพื่อพวกเรา” คำว่าเราอาจไม่มี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รวมอยู่ด้วยก็เป็นได้

ชะตากรรมของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ในเดือนมิถุนายน 2562 จึงเป็นชะตากรรมเหมือนอย่างยิ่งกับของ นายเสนาะ เทียนทอง ในเดือนกรกฎาคม 2538

เพราะเลือกตั้งเดือนกรกฎาคม 2538 พรรคชาติไทยได้ชัยชนะ

ในฐานะที่ นายเสนาะ เทียนทอง เป็นเลขาธิการพรรค ดำรงอยู่ในฐานะเป็นผู้จัดรัฐบาลจึงน่าจะได้บำเหน็จรางวัลอย่างน้อยก็ต้องกระทรวงมหาดไทย

แต่แล้วกลับได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

ฐานะของกระทรวงสาธารณสุขต่างจากกระทรวงมหาดไทยอย่างไรก็อีหรอบเดียวกับฐานะของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กับกระทรวงยุติธรรมนั่นแหละ

ถามว่าเมื่อได้กระทรวงสาธารณสุขแทนที่จะเป็น กระทรวงมหาดไทยตามความปรารถนา นายเสนาะ เทียนทอง ทำอย่างไร

คำตอบก็คือ หวานอมขม “กลืนเลือด”

และเมื่อถึงจังหวะอันเหมาะสมในเดือนพฤศจิกายน 2539 นายเสนาะ เทียนทอง ก็แตะขากับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และอำลาจากพรรคชาติไทย

เข้าไปดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการพรรคความหวังใหม่

จากนั้น นายเสนาะ เทียนทอง ก็ใช้ความจัดเจนจากพรรคชาติไทยบันดาลให้พรรคความหวังใหม่กำชัยในการเลือกตั้งส่ง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นนายกรัฐมนตรี

ไม่มีใครรู้ว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน คิดอย่างไร และเจ็บปวดหรือไม่หากพลาดหวังจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

เพราะเรื่องยังไม่เกิดขึ้นในทางเป็นจริง

แต่ถ้าหากในที่สุดเก้าอี้ที่ได้คือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หรือกระทรวงศึกษาธิการ แทนที่จะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

เราคงได้เห็น “ความรู้สึก” ของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แน่นอน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน