ตำตา ตำใจ ถวายสัตย์ ปฏิญาณ แถลง นโยบาย
คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
ถวายสัตย์ – เหมือนกับเมื่อ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ขอหารือประธานรัฐสภาต่อกรณีการถวายสัตย์ปฏิญาณของครม. ที่กล่าวนำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
จะเป็นเรื่องเล็กๆ จะเป็นเรื่องหยุมหยิม
แต่ก็ต้องยอมรับว่า เรื่องเล็ก เรื่องหยุมหยิมนี้ได้รับการคัดค้านจากวิปของพรรคพลังประชารัฐทันทีทันความโดยอ้างว่าอาจเป็นการตัดต่อ
และประธานรัฐสภาก็เห็นว่าเป็น “เรื่องร้ายแรง”
กระนั้น เรื่องร้ายแรงในความเห็นของประธานรัฐสภาก็ถูกทำให้ตกไปอันชวนให้คิดว่าเรื่องน่าจะจบ เรื่องไม่น่านำไปสู่การต่อความยาว สาวความยืด
จากวันที่ 25 กรกฎาคมที่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เปิดประเด็น กลับไม่สามารถจบลงอย่างง่ายดายเหมือนที่คิดๆ กันในเบื้องต้น
ตรงกันข้าม กลับกลายเป็นประเด็นต่อเนื่อง
ต่อเนื่องกระทั่งการประท้วงและการขัดขวางการอภิปรายของหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยก็มีมูลเชื้อมาจากการพยายามเอ่ยถึงกรณี “ถวายสัตย์ปฏิญาณ”
สภาพการณ์เช่นนี้เองที่คิดว่าจบกลับเป็นไม่จบ
ยิ่งเมื่อติดตามบทบาทของ นายวิษณุ เครืองาม ซึ่งสามารถตอบและอธิบายได้ทุกเรื่องอันเกี่ยวกับกฎหมาย แต่มาถึงกรณี “ถวายสัตย์ปฏิญาณ” กลับไม่ตอบ กลับไม่ทราบ ยิ่งชวนให้ฉงนสนเท่ห์
ผ่านวันที่ 5 สิงหาคม เมื่อมีความพยายามจะปิดกรณี “ถวายสัตย์ปฏิญาณ” อีกครั้งผ่านเวทีวันครบรอบวันเกิดของโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า
ความเป็นจริงอ้อมๆ ก็เริ่มปรากฏและยอมรับ
ยอมรับว่า 1 การกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีความผิดพลาดคลาดเคลื่อนเกิดขึ้นจริงอย่างที่มีการทักท้วง
ขณะเดียวกัน 1 ก็พยายามรวบรัดสะบัดธงให้ เรื่อง “จบ”
ตรงนี้เองเท่ากับเป็นการตอกย้ำว่าท่าทีของ นาย วิษณุ เครืองาม ส่อนัยยะอะไรและทำไมจึงไม่อาจให้ คำตอบและให้คำอธิบายได้ทั้งที่เคยเจื้อยแจ้วจำนรรจามาก่อน
ไม่มีอะไรสะท้อนวิธีคิด วิธีทำงานของแต่ละบุคคลได้เท่ากับเมื่อประสบเข้ากับกรณี 1 ถวายสัตย์ปฏิญาณ และ 1 กรณีการแถลงนโยบายของรัฐบาล
เพราะเด่นชัดว่า 2 เรื่องนี้ไม่เป็นไปตาม “รัฐ ธรรมนูญ”
เรื่องถวายสัตย์ปฏิญาณมีคลิปข่าวในพระราชสำนักเป็นประจักษ์พยาน เรื่องแถลงนโยบายของรัฐบาลไม่เพียงแต่โดยการอ่านหากแต่ยังอ่านจากเอกสาร
เมื่อใดที่เรื่องถึง “ศาลรัฐธรรมนูญ” คงพะอืดพะอมอย่างยิ่ง
อ่านข่าว
