ย้อนเวลาได้ ก็เลือกประชาธิปไตยสิ
ชกไม่มีมุม
วงค์ ตาวัน
ระยะนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกอาการตัดพ้อถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี รวมทั้งย้อนถึงการที่เข้ามาทำหน้าที่นี้ว่า “ในการบริหารราชการแผ่นดิน ขณะที่ผมเข้ามาในลักษณะนี้ ผมรู้ตัวดีอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่เข้ามาจะทำอย่างไร ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“ถ้าย้อนกลับไปได้ ผมก็อยากจะปล่อยให้เป็นแบบนั้นเหมือนกัน ดูสิว่าวันนี้จะอยู่กันได้ไหม มันจะเกิดสงครามกลางเมืองหรือเปล่าผมก็ไม่รู้”
การย้อนเวลาที่พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึง ก็คงเป็นช่วงการชุมนุมกปปส.
ทำให้ต้อง “เข้ามา” ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เพราะสถานการณ์เข้าสู่ทางตัน ซึ่งก็บีบให้เหลือทางเดียวคือเรียกทหารเข้ามายึดอำนาจ
พล.อ.ประยุทธ์บอกว่า ถ้าย้อนกลับไปได้ ถ้าไม่เข้ามา จะอยู่กันได้ไหม
และจะเกิดสงครามกลางเมืองหรือเปล่า!?
ประชาชนคนฟังบางส่วนอาจจะเชื่อ และเห็นว่าสมควรแล้วที่ทหารต้องเข้ามาหยุดไฟ
แต่ประชาชนจำนวนไม่น้อย ก็ไม่เชื่อ
เอาง่ายๆ ว่า ถ้าเราผ่านช่วงสถานการณ์บ้านเมือง หรือศึกษาข้อมูลข่าวสารให้ดีจะพบว่า ทุกครั้งที่จะมีการรัฐประหารล้มประชาธิปไตย ต้องมีการปูทางสร้างกระแสให้สุกงอมทั้งสิ้น
กระแสนั้นอาจจะมีอยู่จริงสัก 20-30% แต่จะมีกลุ่มที่ทำหน้าที่สร้างกระแสให้พุ่งไปเป็น 100%
รัฐประหาร 2534 ก็โหมนักการเมืองคอร์รัปชั่นทั้งตามน้ำทวนน้ำ รัฐประหาร 2549 ก็อ้างเรื่องจะนองเลือดเหลือง-แดง พอถึง 2557 ก็โหมเรื่องความรุนแรงจนจะมีสงครามกลางเมือง
แต่บทเรียนในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ในทุกวิกฤต เหตุลอบวางระเบิด ลอบยิง ลอบเผา ไม่เคยมีพยานหลักฐานยืนยันได้ชัดเจนว่าเป็นฝีมือใคร จะมีก็แค่ข้อกล่าวหาลอยๆ
ลงเอยแล้ว น่าเชื่อว่า เป็นกลุ่มสร้างความรุนแรง เพื่อปั่นสถานการณ์ให้ไปสู่จุดที่เหมาะสมกับการรัฐประหารมากกว่า!
ในช่วงกว่า 10 ปีมานี้ มีการใช้ความรุนแรงหลายครั้งจริง
แต่ไม่เคยมีอะไรมายืนยันมั่นเหมาะว่าเป็นใคร ที่มีการจับกุมก็อ้างว่ากลุ่มนี้มีความเชื่อมโยง บางคดีศาลก็ยกฟ้องในภายหลัง เพราะไม่มีพยานหลักฐานชัดเจน
การสร้างกระแส “เผาบ้านเผาเมือง” ก็มีคำพิพากษา ยกฟ้องคนที่ถูกหาว่าเผาห้างในปี 2553 แล้ว!
โดยชี้ว่า ไม่มีพยานหลักฐานชัดเจนและไม่มีเหตุผล ที่กลุ่มนปช.จะไปก่อเหตุเผา
จึงขอมองว่า บ้านเมืองเรา มักมีแต่การสร้างสถานการณ์ปั่นกระแส โดยมีเป้าหมายแฝงเร้นอยู่
แม้แต่สงครามกลางเมือง ก็มีคนไม่น้อยที่ไม่เชื่อ เห็นว่าแค่เพื่อให้สุกงอมต่อการรัฐประหารมากกว่า
ที่แน่ๆ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ประกาศยุบสภาเพื่อให้เลือกตั้งใหม่แล้ว มีทางออกที่เป็นประชาธิปไตยอยู่แล้ว
แต่จงใจไม่เลือกทางนี้ เพราะเตรียมอีกทางไว้แล้ว!