“วงค์ ตาวัน”
ในขณะที่ทั่วทั้งสังคมเข้าใจใกล้เคียงกันว่า ระเบิดเวลาของการเมืองไทยในอนาคตไม่ไกลเกินไปนัก ก็คือ รัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 และยุทธศาสตร์ 20 ปี ถ้ามีโอกาสต้องลงมือถอดชนวนระเบิดนี้ให้ได้โดยไว
เพราะทั้งรัฐธรรมนูญและยุทธศาสตร์ 20 ปี คือ ผลผลิตของขบวนการอนุรักษนิยมการเมืองไทย กลุ่มขุนศึกขุนนาง
หลังจากวางแผนมาตั้งแต่การชัตดาวน์ ทำทุกอย่างให้เข้าสู่ทางตัน เพื่อปูทางให้ทหารเข้ามายึดอำนาจ
แล้วในช่วงที่อำนาจการเมืองอยู่ในมือคนหยิบมือเดียว ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เกี่ยว ไม่มีส่วนร่วมนี่แหละ
คือช่วงเวลาของการทำรัฐธรรมนูญและยุทธศาสตร์ยาวนาน 20 ปี ที่กำหนดโดยแนวคิดอนุรักษนิยมการเมือง แล้วล็อกให้การเมืองไทยต้องเดินตามกรอบล้าหลังนี้ไปอีก 20 ปี
ดังนั้นบรรดาพรรคการเมืองเสรีประชาธิปไตย จึงประกาศท่าทีชัดเจนว่า จะต้องรื้อจะต้อง โละทิ้ง!
พรรคเพื่อไทยที่เป็นขั้วตรงข้ามทหารยืนยันมาตลอด
พรรคชาติไทยพัฒนาที่มีบทบาทในการผลักดันรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนปี 2540 ก็ยืนยัน
พรรคอนาคตใหม่ ที่ครองใจคนรุ่นใหม่ โดยธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประกาศอย่างแหลมคมว่า ทั่วทั้งสังคมต้องร่วมกันเรียกร้องให้รื้อรัฐธรรมนูญนี้รวมทั้งยุทธศาสตร์ 20 ปี
แต่ถ้าถามว่าประชาธิปัตย์มีท่าทีเช่นไร แน่นอนตามสไตล์ พูดดี พูดเก่ง พูดหล่อเอาไว้ก่อน นั่นคือ เห็นว่าต้องมีการแก้ไข แต่ก็ไม่แสดงอะไรที่ชัดเจน
ส่วนหนึ่งเพราะหนทางของพรรคนี้ เป็นมายาวนานแล้ว ไม่ขัดแย้งกับอำนาจนอกระบบใดๆ
อีกส่วนหนึ่ง แกนนำจำนวนหนึ่ง เข้าร่วมเป่านกหวีด ที่เสมือนกำหนดตอนจบเอาไว้ล่วงหน้า แล้วว่า ทหารต้องเข้ามายึดอำนาจ!
ในเมื่อรัฐธรรมนูญและยุทธศาสตร์ 20 ปี ก็คือ เป้าหมายของการชัตดาวน์และการรัฐประหาร
ในเมื่อแกนนำประชาธิปัตย์จำนวนหนึ่งเข้าไปร่วมด้วย แล้วจะมาปฏิเสธผลผลิตของขบวนการดังกล่าวได้อย่างไร
ยกเว้นสมาชิกของประชาธิปัตย์ในซีกที่ไม่ได้เข้าไปร่วมชัตดาวน์ นั่นแหละ ที่พูดปฏิเสธได้อย่างเต็มปากเต็มคำ
แต่รวมๆ แล้ว ทำให้ท่าทีของพรรคนี้ จึงไม่ชัดเจน
ปัญหาการโถมตัวเข้าไปร่วมชัตดาวน์นี่แหละ จะทำให้ตอบคำถามของผู้คนในภายหน้าได้ยากเย็น
ข้อครหาว่าร่วมเชื้อเชิญทหารเข้ามา แล้วอยู่ยาวนาน 4-5 ปี จะกระทบต่อสโลแกน เชื่อมั่นในรัฐสภา เชื่อมั่นในประชาธิปไตย
แล้วเลิกใช้วิธีโยนผิดว่า เพราะรัฐบาลเพื่อไทยนั่นแหละทำตัวเอง!?
ทำเละเทะเสียจนทำให้ทหารเข้ามายึดอำนาจได้
เพราะไม่มีนักประชาธิปไตยคนไหน ที่จะยอมรับว่า ถ้ามีเงื่อนไข ทหารเขาก็ยึดอำนาจ ได้นะ!