“วงค์ ตาวัน”
ในฐานะอดีตกรรมการป.ป.ช.และอดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา นางสมลักษณ์ จัดกระบวนพล ได้ออกมายืนยันว่า คดีสลายม็อบนปช.ที่มีคนตายถึง 99 ศพนั้น ยังจบไม่ได้ หลังจากมองทั้งในด้านข้อกฎหมายและในด้านข้อเท็จจริง
โดยเห็นว่า เป็นเหตุการณ์ที่มีผู้เสียชีวิตมากถึง 99 ศพ อาวุธที่เจ้าหน้าที่ใช้ก็ไม่ธรรมดา เป็นอาวุธในราชการสงคาม มีการใช้หน่วยสไนเปอร์ด้วยดังที่พบเป็นภาพข่าว
การใช้อาวุธร้ายแรงของเจ้าหน้าที่โดยมีข้ออ้างนั้น เห็นได้ว่าค้านกับคำพิพากษาผลการไต่สวนชันสูตรพลิกศพ ที่ศาลชี้เอาไว้ถึงผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้กว่า 10 ราย ว่าถูกกระสุนปืนจากฝั่งเจ้าหน้าที่หน่วยไหนบ้างที่อยู่ในพื้นที่
รวมทั้งไม่พบเขม่าดินปืนจากอาวุธในตัวผู้ตาย
หรือถ้าหากมีผู้ชุมนุมบางรายมีอาวุธ แต่การใช้อาวุธสงครามของเจ้าหน้าที่เพื่อสลายการชุมนุม
ยังหนักเกินความจำเป็นอยู่ดี!
ตามกฎหมายอาญาเจ้าหน้าที่จะใช้อาวุธได้ก็ต่อเมื่อต้องมีการต่อสู้
ไม่ใช่อีกฝ่ายมีอาวุธแล้วก็ประหารได้เลย
ที่สำคัญ อดีตป.ป.ช.และอดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา ยังได้เสนอช่องดำเนินการเพื่อให้คดี 99 ศพเดินหน้าต่อไป
ด้วยการยื่นร้องต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ให้ตั้งคณะกรรมการไต่สวนอิสระขึ้นมาพิจารณาสั่งฟ้อง คดี 99 ศพ
“ดิฉันยังคงคาใจอยู่ 2 ข้อคือ 1.ทำไมต้องใช้อาวุธร้ายแรงเหมือนอยู่ในราชการสงคราม และ2.ทำไมจึงใช้ทหาร ไม่ใช้ตำรวจที่ถูกฝึกมาให้ควบคุมสถานการณ์เช่นนี้โดยเฉพาะ”
ทั้งยังย้ำว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตผอ.ศอฉ. ซึ่งเป็นผู้สั่งการในเหตุการณ์นี้ ได้ปรากฏมีคำให้สัมภาษณ์ว่า ให้เจ้าหน้าที่ยิงต่ำกว่าเข่าได้
ในความเป็นจริง มีเหตุชุลมุน ผู้ชุมนุมไม่มีใครอยู่นิ่งเฉย ขาของคนหนึ่ง อาจเป็นหัวของอีกคนหนึ่งได้!
ดังนั้นจึงเห็นว่าเป็นคำสั่งที่มีเจตนาเล็งเห็นผล
นอกจากนั้นยังเห็นด้วยกับอีกช่องทางที่ให้ฟ้องร้อง เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติว่าทำเกินกว่าเหตุหรือไม่
เมื่อฟ้องแล้ว เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติสามารถให้การซัดทอดผู้บังคับบัญชาที่สั่งการได้
ทั้งนี้กฎหมายอาญาได้คุ้มครองเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติเอาไว้ว่า หากผู้บังคับบัญชาออกคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย แล้วผู้ปฏิบัติการเข้าใจว่าคำสั่งนั้นชอบด้วยกฎหมาย ผู้ปฏิบัติการมีความผิดจริงแต่ไม่ต้องถูกลงโทษ
ทั้งหลายทั้งปวง จึงนำมาสู่ข้อสรุปของผู้รอบรู้และมีประสบการณ์ในกระบวนการยุติธรรมโดยตรงที่ว่า
“คดี 99 ศพจึงยังจบไม่ได้”
แน่นอนว่า บรรดาญาติมิตรของผู้เสียชีวิต ก็ได้ยืนยันชัดเจนล่าสุดว่า
ต้องเดินหน้าทวงความยุติธรรมต่อไป!