“วงค์ ตาวัน”

ภารกิจช่วยเหลือทั้ง 13 ชีวิตออกมาจากถ้ำ ซึ่งจบลงอย่างสมบูรณ์แบบ ทุกคนปลอดภัยสุขภาพแข็งแรง ถือได้ว่ามีจุดที่น่าสนใจก็คือ เป็นการเดินทางมาร่วมกันทำงานของนักดำน้ำกู้ภัยในถ้ำจากหลายๆชาติทั่วโลก จนเป็นที่กล่าวขวัญว่านี่คือปฏิบัติการระดับโลกอย่างแท้จริง

ด้วยฝรั่งนักดำน้ำในถ้ำที่เชี่ยวชาญของจริงเหล่านี้เอง คือผู้มีบทบาทสำคัญในปฏิบัติการทั้งหมด

เป็นชุดแรกที่ดำน้ำเข้าไปภายในถ้ำ จนได้พบเด็กๆและโค้ช ที่นั่งรอคอยอยู่บริเวณเนินนมสาว

แล้วก็วางแผนดำน้ำ นำทั้ง 13 ชีวิตทยอยออกมา 3 ล็อต 3 วัน จนพ้นถ้ำได้ครบถ้วน

ใช้ความสามารถ ใช้ความเชี่ยวชาญอย่างสูงสุด เอาชนะความสุ่มเสี่ยงต่ออันตรายมากที่สุดจนได้

ประสานเข้ากับการทำงานอย่างทุ่มเทของเจ้าหน้าที่ไทย ทั้งทหาร ตำรวจ กรมอุทยานฯ สาธารณสุข และกู้ภัยทั้งหลาย คนละไม้คนละมือ

จึงนำมาซึ่งข่าวดี!

ข่าวดีสำหรับพ่อแม่พี่น้องของ 13 ชีวิต และคนทั้งประเทศ รวมทั้งทั่วโลก

เหตุการณ์นี้จึงถือเป็นการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ที่น่าสนใจ

นั่นคือ คนทั้งโลกสามารถร่วมมือกันในปฏิบัติการ เพื่อคลี่คลายเหตุการณ์วิกฤตในประเทศไทยได้

ด้วยโลกในยุคดิจิตอล ทำให้ข้อมูลข่าวสารลื่นไหลไปอย่างไร้พรมแดน

วิกฤตชีวิตของเด็ก 13 คน ทำให้คนทั้งโลกได้รับรู้อย่างตกใจและห่วงใยไปพร้อมกับคนไทยเรา!

พร้อมๆ กัน นักดำน้ำกู้ภัยในถ้ำซึ่งเป็นความเชี่ยวชาญระดับพิเศษ รู้ได้ทันทีว่า ในประเทศไทยยังขาดแคลนอยู่ เมื่อได้รับการติดต่อก็บินมาถึงแม่สาย เชียงราย ได้ทันที

มาจากหลายชาติ ร่วมกันทำงานกับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายของไทยได้อย่างมากประสิทธิภาพ จนทำให้งานที่ยากที่สุดก็ลุล่วงได้ในที่สุด

ปรากฏการณ์นี้ คงจะเป็นที่กล่าวขวัญกันไปอีกนาน

ว่าคนทั้งโลกร่วมมือกันทำงานเดียวกันในพื้นที่ประเทศหนึ่งได้อย่างรวดเร็วและสำเร็จอย่างดี!

สังคมไทยเราคงได้เรียนรู้จากเหตุการณ์นี้ในหลายๆด้าน โดยต้องยอมรับว่า โลกยุคใหม่ก้าวหน้าไปมากมาย มีอะไรใหม่ๆต้องเรียนรู้ต้องเอามาใช้อีกมาก เหมือนกับที่ไทยเราก็มีดีบางด้าน ซึ่งฝรั่งก็ต้องมา เรียนรู้

สำคัญสุดคือ สังคมไทยต้องเปิดหูเปิดตากว้างไกล

ต้องแสวงหาสิ่งใหม่ๆ และต้องพร้อมจะก้าวไป ข้างหน้า

แต่น่าเป็นห่วงที่ระบบอำนาจการเมืองมีแต่ฉุดให้สังคมเราถอยหลังเข้าไปติดในถ้ำอีกสิบยี่สิบปี

ทั้งรัฐธรรมนูญและยุทธศาสตร์!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน