“วงค์ ตาวัน”
เมื่อมีแนวโน้มว่าการเมืองไทยคงจะเลี่ยงไม่พ้นในการเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง หลังจากที่ประชาธิปไตยต้องหยุดชะงักไป 4 ปี และอาจจะต้องไปถึง 5 ปี ถ้ากำหนดวันเลือกตั้งอยู่ที่ประมาณต้นปี 2562 ตามคำสัญญาล่าสุดของคสช.
คำถามที่ดังกระหึ่มไปทั่วในวันนี้ก็คือ ตลอด 4 ปีที่ ผ่านมา ที่อ้างว่าจำเป็นต้องหยุดประชาธิปไตยเพื่อปฏิรูปการเมืองให้ดีงามก่อนนั้น
มีอะไรดีงามขึ้นมาบ้าง โดยเฉพาะที่กำลังดูดกันหนัก ดูดนักการเมืองที่โจมตีว่าเลวร้ายกันมาตลอดนั่นแหละ
แล้วคำถามนี้จะดังขึ้นๆๆ อีก เมื่อถึงวันที่เปิดให้พรรคการเมืองต่างๆ สามารถเคลื่อนไหวหาเสียงกับ ประชาชนได้
คงจะต้องถูกประชาชนถามไปยังพรรคการเมืองที่เข้าร่วมในกระบวนการหยุดประชาธิปไตย ออกการ์ดเชิญทหาร ให้มายึดอำนาจ
ถามอย่างอึงอล!!
ว่าภายใต้ข้ออ้างเมื่อปลายปี 2556 จนถึงต้นปี 2557 ขณะชัตดาวน์ประเทศที่ว่า ต้องปฏิรูปก่อนเลือกตั้งนั้น ไหนล่ะคือสิ่งที่ปฏิรูปมาถึง 4-5 ปี
ทั้งพรรคการเมืองในเครือข่ายคสช. ที่ต้องการดันนายกฯปัจจุบันให้กลับมาอีกรอบ ต้องเจอกับคำถามนี้แน่ๆ
ทั้งพรรคการเมืองของฝ่ายม็อบนกหวีด ที่ปฏิเสธทางออก อันเป็นแนวทางประชาธิปไตย ซึ่งรัฐบาลยิ่งลักษณ์เปิดทาง ให้แล้วด้วยการยุบสภา เลือกตั้งใหม่
วันนั้นไม่ยอมเลือกทางออกประชาธิปไตย ทำให้ประชาธิปไตยต้องล้มคว่ำ และเป็นการเปิดทางให้ทหารเข้ามายึดอำนาจ!?
คำกล่าวอ้างกับประชาชนที่เป่านกหวีดเรียกเขามาร่วมชุมนุม อันมีผลถึงล้มประชาธิปไตยไปนั้น มีอะไรเป็นจริงขึ้นมาสักอย่างบ้างหรือยัง
คงโดนถามกันให้หนักๆ แน่ๆ
ล่าสุดมาเปิดประชุมเสวนาปฏิรูปประเทศไทย เน้นย้ำแนวทางปฏิรูปที่เป่านกหวีดเรียกร้องกันอีกรอบ คล้ายจะมายืนยันจุดยืนเดิมอันหนักแน่น
แต่ผลคือการประจานสิ่งที่พูดบนเวทีม็อบ กับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นตลอดช่วงรัฐบาลทหาร
ให้ชาวบ้านได้เห็นชัดเจนมากกว่า
วันก่อนมีนักวิชาการ ตั้งประเด็นขึ้นมาอย่างน่าสนใจว่า การตั้งพรรคการเมืองของกลุ่มแกนนำกปปส.นั้น เพื่ออะไร พร้อมกับมีข้อวิเคราะห์ที่ชัดเจนว่า
คำอ้างเรื่องให้ปฏิรูปนั้น ไม่มีทางเป็นจริงขึ้นมาได้เลย!? เพราะกลุ่มคนที่สนับสนุนอยู่เบื้องหลังกปปส.ก็คือ ชนชั้นสูงของสังคมไทย
แล้วชนชั้นสูงที่ไหน จะยอมให้มีการปฏิรูปสังคมให้มีการกระจายอำนาจบ้าง ลดการเหลื่อมล้ำบ้าง
ล้วนขัดแย้งกับผลประโยชน์และอำนาจของชนชั้นสูงทั้งสิ้น
ความจริงของการปฏิรูป ก็คือความไม่จริงนั่นเอง!?!