“วงค์ ตาวัน”
คลิปพลทหารเลี้ยงไก่ ซึ่งเป็นการอาศัยช่องทาง โลกโซเชี่ยลในการร้องขอความเป็นธรรม และป่าวประจานให้เห็นถึงระบบอันไม่ถูกต้องบางประการในแวดวงราชการทหาร ถึงบัดนี้ต้องถือว่า ส่งผลสะเทือนได้มากมายไม่น้อยเลย
นี่คืออิทธิฤทธิ์จากคลิป ซึ่งพลทหารรายหนึ่งแสดงความอึดอัดคับข้องใจ ที่อุตส่าห์มาเป็นทหารเพื่อรับใช้ชาติ
แต่กลับให้มาเลี้ยงไก่ ต้องกินนอนอยู่ในเล้าไก่ในสถานที่เลี้ยงไก่ แถมยังถูกเจ้านายดุด่าอย่างรุนแรง ตบตีก็มี
เมื่อคลิปนี้มีการแชร์อย่างแพร่หลาย ทำให้กองทัพต้องยอมรับอย่างฝืนๆว่า มีปัญหาเกิดขึ้นจริง และมีการสั่งสอบสวนกันอย่างจริงจัง
รวมไปถึงได้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ลุกลามไปถึงระบบการนำทหารไปทำงานรับใช้ในบ้านเจ้านาย
กลายเป็นคำถามว่า การนำเอาพลทหารมาใช้ในนอกภารกิจของกองทัพ เช่นนี้ถูกต้องแล้วหรือ!?
แม้ว่าอาจจะไปคาดหวังให้เกิดผลการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันภายในกองทัพต่อเรื่องนี้ คงจะเป็นไปได้ยาก
เพราะกองทัพเป็นหน่วยราชการที่แข็งแกร่งเป็นปึกแผ่น
และยากที่บุคคลภายนอกจะไปแตะต้องตรวจสอบอะไร มากได้
ป้ายที่เราเห็นกันบ่อยๆ ว่า “เขตทหารห้ามเข้า” มีผลในทางปฏิบัติเช่นนั้นจริงๆ
ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นภายในเขตทหาร ก็ไม่มีคนภายนอกสามารถเข้าไปถึงได้ง่ายๆ
ขนาดเจ้าพนักงานตำรวจซึ่งรับผิดชอบการสืบสวนสอบสวนคดี หากรู้ตัวผู้ต้องสงสัยว่าเป็นเจ้าหน้าที่ทหารอยู่ในเขตทหาร ก็ยังต้องใช้เวลาไม่น้อยเลย ในการประสานเพื่อขอสอบปากคำตรวจสอบพยานหลักฐาน
คำว่าเขตทหารห้ามเข้า จึงไม่ใช่เรื่องเล่นๆ!!
คลิปพลทหารเลี้ยงไก่คลิปนี้ จึงถือได้ว่า มีคุณูปการในการเริ่มเปิดโลกภายในเขตทหาร ที่เคยห้ามเข้า ห้ามเห็น
ทำให้คนภายนอกได้เห็น และเริ่มเรียกร้องตรวจสอบอะไรได้มากขึ้น
ขณะเดียวกัน ท่าทีของพล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. ก็แสดงให้เห็นถึงการยอมรับว่า กระแสสังคมต่อเรื่องนี้มีพลังไม่น้อย
ด้วยการใช้ถ้อยคำในการเตือนผู้บังคับบัญชาในหน่วยทหารอย่างน่าสนใจว่า โลกมันเปลี่ยนแปลงไปเยอะแล้ว จะกลับไปทำเหมือนเดิมๆ คงไม่ได้อีกแล้ว
ถ้าหากเหล่านายทหารใหญ่ๆ จะนำคำกล่าวของผบ.ทบ.นี้ ไปคิดไปเตือนใจก็น่าจะดี
และเรื่องที่ควรทบทวน ก็ไม่ควรอยู่แค่ประเด็นทหารรับใช้ในบ้านผู้ใหญ่
โลกเปลี่ยนไปมากจริงๆ ทั่วโลกเขาเลิกนำกองทัพมาแทรกแซงการเมืองกันแทบทุกประเทศแล้ว เลิกนำทหารมาสลายการชุมนุมกันแทบทั้งโลกแล้ว
ไปทำเหมือนเดิมๆ ไม่ได้อีกแล้ว..จริงๆ!