“วงค์ ตาวัน”
ระยะนี้ บรรดานักเคลื่อนไหวต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่น ที่เคยมีบทบาทอย่างสูงในการล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ร่วมกับม็อบนกหวีด เริ่มออกมาขยับเขยื้อนกันอีกครั้ง โดยหันมาวิพากษ์วิจารณ์ตำหนิติเตียนรัฐบาลคสช. และกลไกตรวจสอบทุจริตในยุคนี้
อาจจะเป็นเพราะว่า บรรดานักต้านคอร์รัปชั่นทั้งหลาย เริ่มรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ เพราะไปร่วมล้มประชาธิปไตยและออกการ์ดเชิญทหารให้เข้ามา
แต่ลงเอยประชาชนทั้งสังคมก็เริ่มผิดหวัง เมื่อพบว่าปัญหาคอร์รัปชั่น มันไม่ได้เกิดแต่เฉพาะยุคนักการเมืองดังที่โหมประโคมกันแต่อย่างใด!?
ดังที่นักวิชาการและผู้รอบรู้ เตือนกันมาตลอดว่า การโกงกินเกิดได้กับผู้มีอำนาจทุกยุค
สำคัญที่สุดคือระบบการเมืองที่เปิดเผยและตรวจสอบได้ จะช่วยจับตาควบคุมผู้มีอำนาจคดโกงได้มากกว่า
ยิ่งระบบการเมืองที่อำนาจอยู่ในมือคนกลุ่มเดียว แถมมีอำนาจควบคุมทั้งสังคมไม่ให้ตรวจสอบวิพากษ์วิจารณ์อะไรได้
นั่นจะยิ่งเป็นอันตรายต่อเงินทองของแผ่นดินมากกว่า!
เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ที่นักต่อต้านคอร์รัปชั่นมองปัญหาโครงสร้างทางการเมืองไม่ออก
หรือไม่เช่นนั้น ก็ไม่ได้มุ่งมั่นจะต้านคอร์รัปชั่นจริงจังอะไรสักเท่าไหร่
แต่เน้นไปที่เป้าหมายทางการเมืองมากกว่า
คือต้องการจะล้มรัฐบาลนักการเมืองเท่านั้น ตามแนวทางของชนชั้นสูงและชนชั้นกลาง ที่ไม่สนใจประชาธิปไตย
ความจริงหากศึกษาประวัติศาสตร์การเมืองให้ดีจะพบว่า กระแสการโจมตีรัฐบาลขี้โกง จะโหมหนักทุกครั้ง เมื่อกลุ่มอำนาจที่ตรงข้ามกับประชาธิปไตยต้องการจะล้มกระดานการเมือง
รัฐประหารล้มรัฐบาลชาติชาย ชุณหะวัณ เมื่อปี 2534 สำเร็จเพราะทั่วทั้งสังคมฮือไปกับกระแสรัฐบาลบุฟเฟต์ คาบิเนต!!
ตอนท็อปบู๊ตออกมายึดอำนาจ โห่ร้องดีใจกันยกใหญ่ ถึงขั้นไปมอบดอกไม้ให้กับทหารบนรถถัง
แต่ผ่านไปแค่ปีเดียว ประชาชนก็ต้องออกมาหลั่งเลือดบนท้องถนน เพื่อขับไล่รัฐบาลคณะรัฐประหารชุดนั้น
แล้วเรื่องราวก็วนกลับมาอีกโดยไม่เรียนรู้ประวัติศาสตร์ โหมประโคมนักการเมืองทุจริต ทุนสามานย์ อย่างไม่ สนใจว่าโครงสร้างการเมืองที่ประชาชนมีส่วนร่วมจะต้องพังทลายไป
ลงเอยก็นำมาสู่รัฐประหารในปี 2549 และอีกครั้งปี 2557 เกิดรัฐบาลอำนาจเบ็ดเสร็จ ตรวจสอบไม่ได้
วันนี้คนที่เคยป่าวประจานรัฐบาลนักการเมืองว่าฉ้อโกง เริ่มต้องออกมาอ้อมแอ้มเตือนรัฐบาลคสช.บ้างแล้ว
คงเพราะสังคมยิ่งมีข้อสรุปได้ชัดเจนมากขึ้นๆ ว่าการโกงกินไม่ได้เกิดเฉพาะในยุคนักการเมืองแน่นอน
ไม่ได้บอกว่าผู้มีอำนาจการเมืองยุคนักการเมืองหรือยุค นักรัฐประหาร ใครคอร์รัปชั่นมากกว่ากัน
แต่สำคัญที่ว่าระบบไหนที่สังคมตรวจสอบผู้มีอำนาจได้มากกว่า!