“วงค์ ตาวัน”
ในแวดวงตำรวจ โดยเฉพาะที่สังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งเกี่ยวพันกับการควบคุมการชุมนุมประท้วงของประชาชนอยู่บ่อยๆ ล้วนเงี่ยหูรอฟังคำพิพากษาคดีสลายม็อบ 7 ตุลาคม 2551 กันอย่างจดจ่อ เพราะจะเป็นคำตอบถึงหลักปฏิบัติในอนาคต
ครั้นเมื่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษายกฟ้องจำเลย ทั้งชั้นต้นและอุทธรณ์
พ้นมลทิน ทั้งนายกฯ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ทั้งผบ.ตร. และผบช.น.
เช่นนี้แล้วก็ทำให้ได้หลักยึดในการปฏิบัติ ด้วยคำพิพากษาเป็นบรรทัดฐานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจล ยังสามารถใช้แก๊สน้ำตาเป็นเครื่องมือในการควบคุมฝูงชนได้ต่อไป
คิดดูแล้วกัน ตำรวจที่ต้องมีหน้าที่แก้ไขวิกฤตม็อบ เห็นการฟ้องร้องคดี 7 ตุลาคม 2551 แล้วก็มึนตึ้บไปตามกัน
ยึดหลักสากล ใช้ตำรวจปราบจลาจล กระสุนยาง แก๊สน้ำตา ขนาดนี้แล้วยังกลายเป็นคดีได้อีกหรือ
ยังดีที่ต่อสู้คดีมานับสิบปี และสุดท้ายศาลพิพากษายกฟ้อง!
ด้วยศาลเห็นว่าการใช้แก๊สน้ำตา แสดงว่าไม่มีเจตนาพิเศษที่จะทำอันตรายต่อประชาชนผู้ชุมนุมให้เจ็บและตายอย่างแน่นอน
หน่วยควบคุมฝูงชนก็โล่งอกไปตามกัน
ไม่เช่นนั้นแล้วต่อไป ตำรวจประเทศไทยจะแก้ไขสถานการณ์ม็อบกันอย่างไร!?
ในขณะที่ทั่วโลก ยึดหลักตำรวจปราบจลาจลและแก๊สน้ำตา คือมาตรฐานที่ดีที่สุดในการสลายม็อบ เพราะไม่ทำให้ประชาชนล้มตาย แต่ประเทศไทยมาเกิดปัญหากลายเป็นคดี
เมื่อลงเอยมีคำพิพากษายกฟ้องเช่นนี้ ก็ทำให้มั่นใจจะปฏิบัติต่อไปได้!
แต่ที่น่าคิดต่อไปก็คือ แล้วหลักปฏิบัติในยุครัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ-สุเทพ เทือกสุบรรณ ในการสลายม็อบเสื้อแดงเมื่อปี 2553 เล่า
อ้างว่ามีสถานการณ์ผู้ก่อการร้ายปะปนอยู่ในม็อบ จึงใช้อำนาจศอฉ.สั่งทหารเข้ามาควบคุมสถานการณ์ และให้ใช้กระสุนจริงได้
อ้างว่าเพื่อป้องกันตัว เพราะมีชายชุดดำในม็อบใช้อาวุธสงคราม ด้วยคำสั่งให้ใช้กระสุนจริงป้องกันตัวนี่แหละ ผู้ชุมนุมตายไป 99 ศพ
มีการใช้สไนเปอร์ หรือการซุ่มยิงระยะไกล เพื่อ “ป้องกันตัว” อีกด้วย!?!
ไม่รู้ว่าเป็นการ “ป้องกันตัว” แบบไหน
แต่เอาเป็นว่า ที่ตายไปร่วมร้อยนั้น ถูกกระสุนจริงยิงใส่ จำนวนไม่น้อยยิงเข้าศีรษะ แล้วไม่มีผู้ก่อการร้ายแม้แต่ศพเดียว ตามที่เป็นข้ออ้างในการใช้กระสุนจริง
จนป่านนี้ กระสุนจริงกับ 99 ศพ ยังไม่เป็นคดีให้พิสูจน์ความจริงอะไรเลย!?
จึงยังไม่มีบรรทัดฐานมาชี้วัดได้ว่า ต่อไปมีม็อบ จะมีรัฐบาลไหนใช้กระสุนจริงแบบนี้ได้อีกหรือไม่
น่าเป็นห่วงชีวิตเลือดเนื้อประชาชนที่ใช้สิทธิเสรีภาพประท้วงจริงๆ!
