คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
วงค์ ตาวัน
คดีฆ่านายจักรกฤษณ์หรือเอ็กซ์ พณิชย์ผาติกรรม อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย ซึ่งโด่งดังครึก โครมเมื่อ 3 ปีก่อน ในที่สุดศาลชั้นต้นได้ตัดสินประหารชีวิตพญ.นิธิวดี หรือหมอนิ่ม ภู่เจริญยศ ผู้เป็นภรรยาในฐานเป็นผู้ใช้จ้างวาน จึงกลายเป็นข่าวใหญ่สะเทือนสังคมขึ้นมาอีกครั้ง
เพราะคำพิพากษายืนยันว่า หมอนิ่มเป็นผู้จ้างวานให้สังหารสามีตัวเองจริง
ที่สำคัญศาลพิพากษายกฟ้องนางสุรางค์ ดวงจินดา มารดาของหมอนิ่ม วัย 74 ปี
โดยศาลเห็นว่าพยานหลักฐานรับฟังไม่ได้ชัดเจนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้
ประเด็นนี้แหละ ที่ทำให้ผู้คนในสังคมต้องศึกษาคดีนี้เป็นบทเรียน
เป็นเรื่องน่าเศร้าสลดสะเทือนใจไม่น้อย!
เพราะหลังเกิดเหตุ ขณะที่การสืบสวนสอบสวนของตำรวจ คืบหน้าไปถึงขั้นจับกุมมือปืนและคนขับขี่รถจักรยายนต์ได้ให้การรับสารภาพ
ขณะที่รูปคดีมุ่งไปที่หมอนิ่มภรรยาของคนตาย
จังหวะนั้นเองนางสุรางค์ผู้เป็นแม่ ก็ปรากฏตัวขึ้น
เข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างว่าตนเองเป็นผู้จ้างวานมือปืนฆ่าลูกเขยเอง โดยอ้างสาเหตุ เพราะทนเห็นลูกสาวถูกสามีซ้อมไม่ไหว
ตอนนั้นเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางไป ทั่วว่า
นี่อาจจะเป็นสัญชาตญาณของแม่ที่พร้อมจะทำ ทุกอย่างเพื่อปกป้องลูกสาว!?!
เพราะในการสืบสวนสอบสวนของตำรวจนั้น ไม่มีพยานหลักฐานพาดพิงไปถึงแม่ของหมอนิ่ม
แต่เมื่อเข้ามอบตัวและให้การรับสารภาพว่าเป็นคน จ้างวานฆ่าเอง
แถมอ้างอิงพยานบุคคลมารองรับอีกว่าเป็น ผู้จ้างวาน
ตำรวจก็ต้องส่งฟ้องไป แต่พร้อมกันก็ยังตั้งข้อหาตามพยานหลักฐานที่มัดแน่นหมอนิ่มด้วย
คดีนี้อัยการจึงส่งฟ้องทั้งมือปืนและคนขี่มอเตอร์ ไซค์ แม่หมอนิ่มและหมอนิ่ม รวมทั้งทนายอี๊ด ซึ่งเป็นทนายความที่ร่วมติดต่อจัดหามือปืนให้
หลังคดีดำเนินไปในชั้นศาล ผ่านการสืบพยานพิสูจน์หลักฐานต่างๆ
ในที่สุดจึงสั่งประหารชีวิตหมอนิ่ม ฐานเป็นผู้ใช้ จ้างวาน โดยไม่ลดโทษ รวมทั้งทนายอี๊ดด้วย
ส่วนมือปืนและคนขี่รถจักรยานยนต์ ให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต
แต่โอกาสของจำเลยทั้งหมด ยังมีขั้นตอนอุทธรณ์และฎีกา
ขณะที่ผู้เป็นแม่ที่พร้อมจะรับผิดแทนลูกนั้น ศาลพิจารณาตามพยานหลักฐานแล้วยกฟ้อง!
