“วงค์ ตาวัน”
เมื่อสนามเลือกตั้งเริ่มใกล้เปิด บรรยากาศเริ่มคึกคัก พื้นที่ภาคอีสานและภาคเหนือ ตกเป็นเป้าหมายในการเจาะทลายฐานเสียงพรรคเพื่อไทย แล้วเป็นที่รู้กันว่ามวลชนใน 2 ภาคนี้ ส่วนใหญ่คือเสื้อแดง คือ นปช. ที่ถูกกระทำในเหตุการณ์ปี 2553
สำหรับญาติสนิทมิตรสหาย ของผู้คนที่ล้มตายในเหตุการณ์สลายม็อบเสื้อแดง ที่เรียกกันว่าเหตุการณ์ 99 ศพ ซึ่งโดยส่วนใหญ่เป็นชาวชนบทในอีสานและภาคเหนือ และย่อมรู้ดีว่า คนที่ตายไม่มีใครเป็นผู้ก่อการร้าย ชายชุดดำดังที่รัฐบาลยุคนั้นกล่าวอ้างเพื่อใช้ทหารและกระสุนจริง
แล้ววันนี้ คดีความกลับยังไม่ปรากฏในสารบบยุติธรรม ความเป็นธรรมสำหรับคนตายยังไม่มี
เขาจะรู้สึกกันอย่างไร เมื่อคนที่เกี่ยวข้องกับการสั่งการในเหตุการณ์ 99 ศพ ที่วันนี้ยังเป็นผู้บริสุทธิ์ผุดผ่อง
ไม่มีคดีความฟ้องร้องอะไรเลย
แล้วเครือข่ายคนเหล่านี้ เริ่มเดินสายหาเสียงในพื้นที่ของผู้สูญเสีย!!
หรืออีกส่วน ส่งกลุ่มพลังดูด มาเดินสายดูดอดีตส.ส. ใน 2 ภาคนี้
เพื่อให้ไปสนับสนุนพรรคการเมืองที่จะสืบทอดอำนาจของรัฐบาลทหาร
แล้วรัฐบาลทหารชุดนี้ กับกลุ่มที่มีอำนาจในเหตุการณ์สลายม็อบ 99 ศพ ก็ร่วมเกี่ยวพันทั้งทางตรงและทางอ้อม
ได้ร่วมกันคนละไม้คนละมือในเหตุการณ์รัฐประหาร ทำให้รัฐบาลประชาธิปไตยสิ้นอำนาจ ทำให้ประชาชนสูญเสียสิทธิทางการเมืองไป
ทั้งที่ช่วงประชาธิปไตยนั้น เป็นช่วงที่ผลประโยชน์ของคนรากหญ้าได้รับการตอบสนองอย่างเป็นรูปธรรม
แล้วนี่ยังเตรียมจะเป็นรัฐบาลต่อไปหลังเลือกตั้งครั้งหน้าอีก
ญาติมิตรของ 99 ชีวิตนั้น จะรู้สึกหรือตัดสินใจอย่างไรในวันเดินเข้าคูหา น่าคิดจริงๆ!?
ยิ่งเมื่อไม่นานมานี้ คดีสลายม็อบ 7 ตุลาคม 2551 เป็นข่าวใหญ่ ให้รู้สึกเปรียบเทียบกับคดีสลายม็อบ 2553 อย่างช่วยไม่ได้
โดยคดี 7 ตุลาฯ มาถึงจุดสิ้นสุด เมื่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาชั้นอุทธรณ์
คดีนี้ยกฟ้องจำเลย ทั้งนายกฯ รองนายกฯ ผบ.ตร.และ ผบช.น. ซึ่งต้องต่อสู้คดีถึงสิบปี
ทั้งที่เป็นรัฐบาลและตำรวจชุดที่ใช้แก๊สน้ำตาสลาย ม็อบเสื้อเหลือง แล้วมีผู้เสียชีวิตอย่างน่าเศร้าและเป็นปริศนา 2 ราย
แต่ก็เป็นคดีและต้องต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความจริง
แล้วญาติพี่น้องของ 99 ศพที่โดนกระสุนเหล็กเล่า จะรู้สึกถึงความต่างกันในความยุติธรรมแบบไหน!?!
ความเชื่อมโยงของกลุ่มอำนาจกับการล้มประชาธิปไตย และทำไมคดี 99 ศพจึงนิ่งเงียบ
จะนำมาสู่อะไร สำหรับการตัดสินใจของผู้คนในเลือกตั้งที่อีสานและเหนือ!