“วงค์ ตาวัน”
สัญญาณวันเลือกตั้งเป็นอันชัดเจนแล้ว โดยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ผู้กุมงานด้านความมั่นคง พูดถึงวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 อย่างหนักแน่นอีกครั้ง ภายหลังมีพระราชโองการโปรดเกล้าฯพ.ร.ป. ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. และพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ลงมาแล้ว
ฟังจากกระแสข่าวหลายด้าน คงไม่หนีไปจาก 24 กุมภาพันธ์แน่ๆ!
เมื่อทุกอย่างชัดเจนเช่นนี้ น่าจะส่งผลดีรอบด้าน
คลี่คลายบรรยากาศด้านการเมือง ส่งผลไปถึงเศรษฐกิจก็คงคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น
ทั่วโลกก็คงมั่นอกมั่นใจมากขึ้นว่า วันคืนสู่ประชาธิปไตยของไทยเรา มีกำหนดชัดเจนแล้ว
หนนี้ไม่มีโรคเลื่อนอีก
จากนี้ไป การขยับตัวของพรรคการเมืองต่างๆ เพื่อเตรียมลงสู่สนามเลือกตั้ง ก็คงเป็นไปอย่างคึกคักและกว้างขวาง
ใครจะเป็นแม่ทัพนำพรรคลงชิงชัยจะได้เริ่มเห็นโฉมหน้าชัดเจนมากขึ้น
พรรคใหญ่อย่าง “เพื่อไทย” น่าจะได้เวลาตัดสินใจกันแล้วว่า ใครกันแน่จะเป็นหัวหน้าพรรค
พรรคประชาธิปัตย์ก็อาจจะต้องถึงจุดชี้ขาดแล้ว ท่ามกลางกระแสที่โถมใส่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จากคนภายในพรรคเองหลายซีก
ส่วนพรรคพลังประชารัฐ ที่เชื่อว่าจะเป็นพรรคใหญ่ อีกพรรค เนื่องจากมาอย่างจัดเต็ม เพื่อสนับสนุนพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ดำรงตำแหน่งนายกฯหลังเลือกตั้งให้ได้
ก็น่าจะได้ฤกษ์เปิดตัวหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค แต่ก็ไม่น่าจะผิดไปจากชื่อที่แย้มกันออกมาแล้ว
ทั้ง “อุตตม” ทั้ง “สนธิรัตน์” ที่มี “ส.สมคิด” ยืนคุมเกมอยู่เบื้องหลัง!
ส่วนพรรคประชาชาติก็เปิดตัวกันแจ่มแจ้ง “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” หัวหน้า และมีพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เป็นเลขาธิการพรรค
ฮือฮาทั้งใน 3 จังหวัดใต้และพื้นที่ที่มีความหลากหลายทั้งชาติพันธุ์และศาสนา
ขณะที่พรรคอนาคตใหม่ แรงจริงๆในหมู่คนรุ่นใหม่และชนชั้นกลางในเมืองกรุง
ก่อนหน้านี้คนทั่วประเทศก็ได้เห็น 2 แกนนำ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และปิยบุตร แสงกนกกุล ออกเดินสายพบปะมวลชนอย่างเอาจริงเอาจังมาโดยตลอด
พูดไปพูดมาที่น่าจับตา คงจะเป็นพรรคเก่าแก่ประชาธิปัตย์นั่นแหละ ทั้งเก้าอี้หัวหน้าและเลขาธิการพรรค
จับจากกระบวนการเคลื่อนไหวจากหลายสายภายในพรรค จนสามารถฟันธงได้เลย
เซียนการเมืองชี้เปรี้ยงว่า แนวโน้มสูงมากที่อภิสิทธิ์จะได้พักผ่อนทางการเมืองหลังจากเหนื่อยหนักมาตั้งแต่เข้าเป็นนายกฯเมื่อปี 2552
คงจะถึงทางตันแล้วจริงๆ!
