“วงค์ ตาวัน”

กลายเป็นคำฮิตไปในชั่วพริบตา อันเนื่องจากการบรรยายโดยศาสตราจารย์โยชิฟูมิ ทามาดะ แห่งมหาวิทยาลัยเกียวโต ในการเสวนาหัวข้อ “สู้กับทุจริตเพื่ออะไร” ที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ที่ผ่านมา

โดยประเด็นสำคัญที่นักวิชาการชาวญี่ปุ่นผู้นี้กล่าวในการบรรยายก็คือ

“การทุจริตเป็นปัญหาใหญ่ แต่การต่อต้านทุจริตเป็นปัญหาใหญ่กว่า เมื่อมีการนำมาทำลายประชาธิปไตยของเมืองไทย”

นอกจากนี้ยังมีถ้อยความสำคัญที่ควรหยิบยกมาเน้นย้ำ เช่น

“การทุจริตเป็นต้นเหตุของเผด็จการทหาร เพราะเขาอ้างว่าทำเพื่อปราบปรามการทุจริต”

“กปปส.อ้างความร้ายแรงของการทุจริต เรียกร้องการแก้ปัญหาและการปฏิรูป โดยคนดีเหล่านี้ปฏิเสธทั้งทักษิณและประชาธิปไตย”

“หากเข้าใจเรื่องการทุจริตไม่ดีพอ เราจะถูกใช้เป็นเครื่องทำลายประชาธิปไตยง่ายขึ้น”

รายละเอียดในการเสวนามีมากมายน่าศึกษาทั้งสิ้น โดยเฉพาะมาจากนักวิชาการที่เน้นการศึกษาข้อมูลอย่างเป็นหลักเป็นฐาน

จุดสำคัญคือ การชี้ให้เห็นว่า บ้านเราได้เอาการต่อต้านการทุจริตมาใช้เป็นเครื่องมือมากมาย

เอาไว้ตราหน้าฝ่ายที่ตนเองไม่ชอบ หรือไม่ชอบนักการเมืองก็ว่าทุจริต

รวมทั้งเอาไว้สร้างความชอบธรรมให้กับการกระทำที่ผิดกติกา เพราะอ้างว่าเพื่อจัดการผู้ทุจริต!!

ไม่เพียงแค่ทัศนะของนักวิชาการญี่ปุ่นรายนี้เท่านั้น แต่คนที่ศึกษาประวัติศาสตร์การเมืองไทย โดยไม่หลงไปกับกระแส คลั่งปราบทุจริต ย่อมรู้ดี

เพราะการก่อรัฐประหารเพื่อล้มประชาธิปไตยแทบทุกครั้ง จะโหมกระแสการทุจริตของนักการเมืองขึ้นมาปูทางเสมอๆ

เช่น รัฐประหารเมื่อปี 2534 ล้มรัฐบาลชาติชาย ก็โหมวาทกรรม“บุฟเฟต์คาบิเนต” จนคนเกลียดชังนักการเมืองไปทั่ว หรือรัฐประหาร 2549 และ 2557 ก็ใช้ข้ออ้างทำนองนี้

จริงอยู่ในรัฐบาลนักการเมือง มักมีปัญหาการทุจริตโกงกินกันจริง แต่ทางแก้คือ ต้องทำลายประชาธิปไตย อย่างนั้นหรือ

นั่นแปลว่าไม่ใช่ทางแก้ แต่เป็นข้ออ้างเพื่อนำไปสู่การล้มกระดานประชาธิปไตยมากกว่า!

อีกทั้งการคอร์รัปชั่นเกิดขึ้นเฉพาะในรัฐบาลนักการเมืองเท่านั้นหรือ

บรรดาผู้คนที่สร้างกระแสเกลียดรัฐบาลนักการเมืองโกงกิน คงไม่กล้ากระทั่งถามตัวเองว่า รัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ไม่มีเรื่องทุจริตอื้อฉาวเลยใช่ไหม

ศาสตราจารย์โยชิฟูมิจึงเสนอว่า ต้องแยกเรื่องทุจริตออกจากประชาธิปไตย

เพราะการบอกว่าขจัดทุจริตแล้วเป็นประชาธิปไตย มากขึ้นนั้นไม่จริง หรือบอกว่าเป็นประชาธิปไตยแล้วจะมีการทุจริตมากขึ้นก็ไม่เกี่ยวกัน

เพราะไม่มีการเลือกตั้งก็มีการทุจริต!!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน