คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
วงค์ ตาวัน
คนนับล้านๆ ที่แห่กันออกไปจากเมืองหลวงเมื่อตอนท้ายปี บัดนี้คนหลายล้านนั้น ก็แห่กันกลับเข้ามาแออัดกันอยู่ในเมืองกรุงดังเดิม ตอนขาไปรถราติดขัดเป็นวันๆ รถทัวร์ รถบัส รถไฟ เครื่องบิน แน่นขนัดไปหมด
ขากลับก็สภาพเดียวกัน
เหล่านี้สะท้อน 2 ปมปัญหา 1.เพราะกรุงเทพฯเป็นศูนย์รวมทุกสิ่งทุกอย่างของประเทศไทย 2.ระบบขนส่งมวลชนเราล้าหลังสุดๆ
ประเทศชาติที่เจริญ มีระบบรถไฟทันสมัย โดยเฉพาะรถไฟความเร็วสูง เป็นระบบขนส่งหลัก ที่ช่วยนำพาผู้คนเดินทางไปยังที่ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัยที่สุด
ทำให้คนใช้รถใช้ถนนลดน้อยลงไปมาก ไม่ต้องทนทุกข์รถติดกันทั้งวัน เปลืองเปล่าน้ำมัน
รวมทั้งไม่ต้องมาเกิด 7 วันอันตราย ตายเกลื่อนถนน!
โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคมขนส่ง ที่รัฐบาลยุคหนึ่งเคยผลักดัน แต่ถูกเกมการเมืองทำลายล้างจนพังพาบ
ผลก็คือ ประเทศชาติเราเสียเวลากับการพัฒนาระบบรถไฟไปมากมายหลายปี มายุคนี้พยายามจะเริ่มต้นใหม่ ก็ยังไม่สำเร็จ แถมต้นทุนก็เพิ่มขึ้นไปอีก
คนไทยก็เลยต้องรับกรรมกันต่อไป
พวกทำลายล้างทางการเมือง บรรลุเป้าหมาย เป็นฝ่ายยึดกุมอำนาจได้
ส่วนประชาชนตาดำๆ ก็ยังแออัดกันบนถนนดังเดิมในเทศกาล เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้ากับการเดินทาง และยังเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย สังเวยอุบัติเหตุกันหลายร้อยศพดังเดิม
ไม่มีวี่แววว่าจะดีขึ้น!!
แทนที่เราจะไปเชียงใหม่ด้วยรถไฟเร็วสูงแค่ 3-4 ชั่วโมง แถมจุผู้โดยสารได้มากมายกว่าเครื่องบิน
กลับยังต้องขับรถใช้เวลาที่เพิ่มมากขึ้นอีกเยอะในปีใหม่และสงกรานต์
ไม่เท่านั้น ข้อเท็จจริงจากหลายประเทศบอกอีกว่า สถานีรถไฟความเร็วสูง ซึ่งจะเกิดขึ้นตามหัวเมืองต่างๆ เป็นระบบการกระจายความเจริญทางเศรษฐกิจได้ทันที
มีสถานีที่ไหน มีธุรกิจการค้าเกิดขึ้นมากมายที่นั่น
ไม่ต้องแห่กันเข้ามาทำงานในเมืองหลวงที่เดียว
แถมความเร็วสูงของรถไฟ ยังทำให้คนที่มาทำงานตาม ที่ต่างๆ สามารถเดินทางกลับบ้านได้ แบบไปเช้าเย็นกลับ
สภาพชุมชน และครอบครัวกลับคืนมา แก้ปัญหา ลูกหลานวัยรุ่นถูกทิ้งขว้าง อันนำมาซึ่งยาเสพติดและอาชญากรรม ซึ่งไม่มีทางแก้ตก ถ้าชุมชนและครอบครัวไม่กลับมาเข้มแข็ง
เมื่อมีเมืองเศรษฐกิจกระจายไปทั่ว ผู้คนก็ไม่ต้องมากระจุกกันในกรุงเทพฯ แล้วแห่กันไปและแห่กันกลับในทุกเทศกาล
อีกอย่าง ส่งผลให้คนกรุงเทพฯ มีชีวิตสบายขึ้น รถไม่ติดขัด อาชญากรรมลดลง
จนไม่ต้องมีบางกลุ่มความคิดต้องมาหงุดหงิด จนเผลอเหยียดพวกบ้านนอกอีกด้วย!
