ต่อคิวอีกพรรค แนวร่วมประยุทธ์
โดย “วงค์ ตาวัน”
การเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงในต้นปีหน้า มีการสรุปแนวทางการต่อสู้ทางการเมืองหนนี้เอาไว้ว่า จะเป็นการชิงชัยกันระหว่างฝ่ายที่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้เป็นนายกฯต่อไปอีกสมัย กับฝ่ายที่ไม่เอาพล.อ.ประยุทธ์
ระหว่างพรรคการเมืองที่อยู่ขั้วตรงข้ามกับคสช. กับพรรคการเมืองฝ่ายที่พร้อมจะไปด้วยกันกับคสช.
ครั้นมาถึงเวลานี้ ก็แทบจะเปิดหน้าเปิดจุดยืนกันออกมาหมดว่า พรรคไหน ใครอยู่ฝ่ายไหน ใน 2 ซีกนี้
ยกเว้นพรรคใหญ่พรรคเดียวที่ไม่มีใครกล้าสรุป
คือพรรคประชาธิปัตย์!!
ยังไม่มีใครสรุปได้ว่า จะยืนอยู่ฝ่ายไหนกันแน่
ยิ่งระหว่างนี้ กำลังเปิดแข่งชิงเก้าอี้หัวหน้าพรรคอย่างเอิกเกริก โดยมีคู่ชิง 3 ราย
คล้ายจะยิ่งทำให้เดาได้ยากว่า ใครจะได้เป็นหัวหน้าพรรค แล้วจะไปแนวไหนกันแน่
แต่ไปๆ มาๆ คำให้สัมภาษณ์ล่าสุดของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าคนปัจจุบัน ก็เหมือนจะบอกอะไรได้หมดแล้ว
นั่นคือ ได้กล่าวถึงท่าทีต่อพล.อ.ประยุทธ์ว่า ถ้าหากได้คะแนนเสียงมามาก ก็มีความชอบธรรมที่จะมาเชิญชวนคนไปร่วมรัฐบาล
“แต่ถ้ามาชวนผม ผมก็ต้องถามว่าคุณจะบริหารงานแบบ 4 ปีที่ผ่านมาหรือไม่ คุณต้องมีการเปลี่ยนแปลง ต้องมีการปรับปรุง”
นักวิจารณ์การเมืองมองว่า ท่าทีอ่อนยวบลงไปอย่างมาก ไม่แข็งกร้าวเหมือนเมื่อเดือนก่อน
ทำให้เริ่มได้ข้อสรุปแล้วว่า ไม่ว่าใครใน 3 คน ที่ สมัครเป็นคู่ชิงหัวหน้าพรรค ไม่ว่าใครจะชนะก็อาจจะไม่ต่างกัน!
เท่ากับว่า โอกาสของพล.อ.ประยุทธ์ เริ่มสดใสมากขึ้นไปอีก
แล้วไปๆมาๆ บรรยากาศการหาเสียงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในวันนี้
ประชาชนคนดูเริ่มเห็นแล้วตลกขบขัน เพราะแทบไม่ต่างจากการเริ่มเดินสายหาเสียงให้กับพรรคประชาธิปัตย์ดีๆนี่เอง
เลือกหัวหน้าพรรคกันแบบไหน ออกเดินสายพบปะประชาชนไปทั่วแทบทุกพื้นที่
คล้ายจะทำเนียนเหนือชั้น แต่คนก็เห็นกันทั้งหมด
แล้วทำไมกกต.จึงไม่มีท่าทีเคร่งครัดกับพรรคนี้ ทำไมคสช.ไม่มีท่าทีห้ามปรามอะไรเลย มองอย่างนี้ ยิ่งชัด!?!
เอาเข้าจริงๆ เขาก็กอดคอร่วมกันมาตั้งแต่ปี 2551 เมื่อตอนพลิกขั้วการเมืองตั้งรัฐบาล แล้วกอดคอร่วมกันผ่านวิกฤตเลือด 99 ศพ จนถึงเหตุนกหวีด 2556-2557
ยิ่งวันนี้ยิ่งต้องกอดคอร่วมกันต่อไป!