เข้าสู่ฤดูหนาว การเมืองสั่นสะท้าน

โดย “วงค์ ตาวัน”

ตามการแถลงของกรมอุตุนิยมวิทยา บอกว่าประเทศไทยเราได้เข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการแล้ว ในช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป

สภาพเย็นยะเยือก คงนำความยากลำบากมายังชาวชนบทที่ยากไร้ ไม่มีเครื่องนุ่งห่มครบพร้อมเหมือนคนร่ำรวยในเมืองหลวง

แต่อีกด้าน สำหรับชาวบ้านในเมืองท่องเที่ยว ฤดูนี้คงช่วยให้มีรายได้ พอจะลืมตาอ้าปากได้บ้าง

ยิ่งในยุคที่ชนชั้นสูงหวงอำนาจการเมือง เลยทำให้เราไม่มีประชาธิปไตยมา 4-5 ปี เศรษฐกิจก็ทรุดหนัก








Advertisement

ลำบากคือชาวบ้าน ส่วนชนชั้นสูงชนชั้นกลางในเมืองที่แห่กันไปร่วมล้มประชาธิปไตย ไม่ได้สะดุ้งสะเทือนอะไร เพราะมีเก็บสะสมเอาไว้เหลือเฟือ

ขณะที่เกษตรกร โดยเฉพาะสวนยางพารา สวนปาล์ม สวนมะพร้าว ที่ราคาดำดิ่งยิ่งกว่ายุคยิ่งลักษณ์หลายเท่า

น่าเห็นใจมากๆ อุตส่าห์ไปเป่านกหวีดเหน็ดเหนื่อยผลตามมาคืออะไร!?

ทั้งหลายทั้งปวง ต้องได้รับการแก้ไข ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง ด้วยมือของชาวบ้านเอง

เพราะเป็นวันที่อำนาจการเมืองกลับคืนมาสู่เราๆ ท่านๆ ต้องใช้วิจารณญาณของแต่ละคน นึกถึงผลประโยชน์ของ ชาวบ้านเป็นสำคัญ ในการตัดสินใจวันเดินเข้าคูหา

ที่ผ่านมานั้นเข้าทำนอง เตะหมูเข้าปากหมา ชัดๆ!!

เช่นเดียวกัน เมื่อเข้าสู่หน้าหนาวแล้วเช่นนี้ เท่ากับกำลังใกล้เข้าสู่ปี 2562 ตามคำสัญญาไว้ว่าจะมีเลือกตั้งในช่วงต้นปี

ถือเป็นช่วงหนาวเหน็บถึงขั้วหัวใจของพวกเล่นเกมอำนาจ เพราะมีเดิมพันสูงในการเลือกตั้ง!?!

เล่นเกมโค่นล้มกันรุนแรง ต้นปีหน้าก็ต้องรักษาอำนาจนี้เอาไว้ให้ได้ทุกวิถีทาง

ช่างน่าสั่นสะท้านจริงๆ ถ้าพ่ายแพ้ สูญเสียอำนาจไป ไม่รู้จะโดนเอาคืนอย่างไรบ้าง

ไม่รู้เพราะยิ่งใกล้วันตัดสินอำนาจ เลยยิ่งหนาวสั่น ยิ่งเครียดหนักหรืออย่างไร

ตอนนี้ชาวบ้านเขาวิจารณ์กันทั้งเมือง ว่าผู้มีอำนาจออกอาการมาก!?!

เล่นโจ่งแจ้ง เปิดช่องให้พรรคที่ร่วมสมคบคิดจนนำมาสู่รัฐประหาร รวมทั้งพรรคที่ตั้งขึ้นมารองรับอำนาจ

แสดงความเอารัดเอาเปรียบอย่างไม่บันยะบันยัง

ส่วนอีกฝ่ายขยับอะไรไม่ได้ แถมใกล้จะโดนยุบพรรคอีก คดีความเล่นงานลงไปถึงลูกถึงหลานโผล่มาไม่หยุด

ออกอาการมากไป ย่อมดูไม่ดีในสายตาประชาชน

เกรงจะส่งผลตรงกันข้าม กลายเป็นช่วยหาเสียงให้พรรคฝ่ายถูกรังแก!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน