คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
วงค์ ตาวัน
หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทีมสืบสวนสอบสวนของนครบาล ชุดคลี่คลายคดีอุ้มฆ่าสาวทอม หนักอกหนักใจอยู่เป็นนาน เกรงว่าแก๊งผู้ต้องหาที่มีตำรวจระดับผู้กำกับฯเป็นหัวโจก จะทำลายศพอันเป็นหลักฐานหัวใจของคดีไปแล้วจนไม่เหลือหลอ
อันจะทำให้การตั้งข้อหาฆาตกรรมเป็นไปได้ยาก
สุดท้ายก็ติดตามหาศพจนพบได้ ด้วยเพราะคนร้ายเลือกวิธีเอาไปฝังดินโบกปูนทับ ไม่ได้เอาไปเผาทำลายจนหมดสิ้น
เมื่อพบศพ แล้วพิสูจน์ได้ว่าใช่เหยื่อที่ถูกอุ้มแน่นอน ซึ่งในชั้นต้นบรรดารอยสักก็ชัดเจนพอสมควรแล้ว
ดังนั้น ขบวนการอุ้มฆ่าสาวทอม คงโดนข้อหาหนัก หนีความผิดฐานฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยมไปไม่พ้น
ช่วยตอกย้ำให้ได้รับรู้กันว่า การกระทำความผิด โดยเฉพาะรุนแรงถึงขั้นสังหารผู้คน
ไม่อาจรอดพ้นมือกฎหมายได้!
ไม่เว้นแม้แต่นายตำรวจระดับพ.ต.อ.ก็ตาม เมื่อพยานหลักฐานบ่งชี้ชัดแจ้ง
คนสีเดียวกันก็ไม่ปกป้องแต่อย่างใด
ระดับผบ.ตร. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา กำชับสั่งการเอง ไม่มีใครจะช่วยได้แน่นอน
เพราะปมพิษรักหักสวาท โยงใยถึงเงินๆ ทองๆ แท้ๆ
นำมาสู่ความแค้นอย่างหน้ามืดตามัว!!
ทำให้นายตำรวจใหญ่หมดสิ้นอนาคต รวมผู้รับงานทั้งทหารและพลเรือน ต้องรับโทษชดใช้กรรมไปตามๆ กัน
เป็นอุทาหรณ์ให้คนทั้งสังคมได้นำไปศึกษา อย่าได้ใช้ชีวิตอย่างขาดสติ และเมื่อเกิดปัญหา อย่าได้ตัดสินใจด้วยการกระทำที่ผิดกฎหมาย
สุดท้ายการก่อคดีอาชญากรรมนั้น ย่อมมีร่องรอยเสมอ ขึ้นอยู่กับว่า ตำรวจชุดคลายคดีจะค้นพบร่องรอยนั้นหรือไม่
คดีนี้ ตามที่มีการออกหมายจับ พบว่ามีผู้ต้องหาถึง 7 คน
เพราะต้องมีทีมไปดักอุ้ม เอาไปกักขัง เมื่อฆ่าแล้วก็ต้องเอาไปฝังอำพราง
เป็นขบวนการที่มีคนร่วมกระทำผิดมากมาย ร่องรอยจึงเยอะแยะไปหมด!
ยิ่งเจอตำรวจชุดทำคดีที่มากฝีมือ เช่น ทีมสืบสวนของนครบาลชุดนี้ จึงทำให้โดนจับกุมได้ทันควันหลายราย สุดท้ายคำรับสารภาพนำไปสู่การชี้จุดสำคัญสุด
นั่นคือการพบศพ อันเป็นหัวใจของคดีฆาตกรรม
การอุ้มฆ่าคนนั้น โหดร้ายทารุณอย่างมาก
ไม่ว่าจะด้วยเรื่องส่วนตัวหรือข้ออ้างเรื่องราชการ ต้องไม่ปล่อยให้ลอยนวล!
