คดีสตรอว์เบอร์รี น่าศึกษาเรียนรู้
คดีสตรอว์เบอร์รี น่าศึกษาเรียนรู้ – มีการก่ออาชญากรรมร้ายแรง แต่ด้วยวิธีการประหลาดพิสดาร เกิดขึ้นที่ออสเตรเลีย เป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลกตลอด 2-3 เดือนที่ผ่านมา คนไทยเอง ก็ให้ความสนใจกับข่าวนี้ไม่น้อย กรณีคนร้ายใช้เข็ม เย็บผ้าฝังเข้าไปในลูกสตรอว์เบอร์รี
จุดเริ่มต้นเกิดจากชาวออสเตรเลียรายหนึ่ง กินสตรอว์เบอร์รีแล้วปวดท้องรุนแรง เมื่อไปรักษาที่โรงพยาบาล แพทย์พบว่าสตรอว์เบอร์รีที่เขากิน มีเข็มติดอยู่ข้างใน
ผู้เคราะห์ร้ายบอกว่า ยังพบเข็มเย็บผ้าฝังอยู่ใน สตรอว์เบอร์รีลูกอื่นๆ ที่เขาซื้อมาอีก
ข่าวนี้แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว มีการเตือนชาวออสเตรเลียให้ระมัดระวังการกินผลไม้ชนิดนี้
จากนั้นยังมีการพบเข็มฝังในสตรอว์เบอร์รีเพิ่มขึ้นอีกหลายราย อาการแตกตื่นก็ไปกันใหญ่
ส่งผลให้ผู้ปลูกสตรอว์เบอร์รีเจ๊งไปตามๆ กัน เพราะชาวบ้านเลิกซื้อ บรรดาร้านค้า ห้าง ซูเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ ก็ไม่รับมาขาย
เลยต้องเอาไปเททิ้งนับล้านๆ ลูก หมดเนื้อหมดตัวไปตามกัน
ถือเป็นการก่ออาชญากรรมที่ส่งผลร้ายแรง
ไม่ว่าจะทำร้ายชาวบ้านที่กินแล้วบาดเจ็บ ไปจนถึงทำให้เศรษฐกิจการค้าเสียหายมหาศาล
หลังจากใช้เวลาตามสืบอยู่นับเดือน ล่าสุดตำรวจก็จับกุมผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ก่อเหตุได้แล้ว!
แต่จะใช่คนร้ายแน่นอนหรือไม่ คงต้องติดตามกันต่อไป เพียงแต่ตำรวจแดนจิ้งโจ้คงมาตรฐานสูงอยู่ มีการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอเป็นพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ เชื่อว่าคงมีความชัดเจนพอสมควร
ผู้ที่ถูกจับกุมเป็นหญิงวัย 50 ปี อดีตผู้ลี้ภัยเชื้อสายเอเชียที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานเมื่อกว่า 20 ปีก่อน
ส่วนสาเหตุจูงใจ เป็นเพราะเคยทำงานเป็นระดับหัวหน้าในฟาร์มปลูกสตรอว์เบอร์รีแห่งหนึ่ง แล้วถูก ไล่ออก เลยอาฆาตแค้น ต้องการให้ฟาร์มแห่งนี้เจ๊งให้ได้
แต่ข่าวบอกว่า ความเสียหายเกิดขึ้นกับเจ้าของฟาร์มเจ้าอื่นๆ อีกหลายยี่ห้อ เพราะผู้คนหวาดผวาไปทั่วประเทศ ลุกลามไปถึงนิวซีแลนด์ด้วยซ้ำ
ตำรวจเลยตั้งข้อหาผู้ที่ถูกจับกุมรุนแรงหลายกระทง
ตั้งแต่ทำปนเปื้อนในสินค้าที่ประชาชนบริโภค ไปจนถึงข้อหาทำลายเศรษฐกิจด้วย!
คดีนี้คนไทยเราเองก็ติดตามข่าวกันไม่น้อย เพราะ มีสตรอว์เบอร์รีนำเข้ามาขายในบ้านเราเยอะแยะ
แต่ก็ยังโชคดีที่บ้านเรา ยังไม่เคยมีคนร้ายที่ก่อเหตุ ต่อพืชผลที่ชาวบ้านต้องซื้อหาไปกิน
ได้แต่หวังว่าจะไม่มี
กระนั้นก็ตาม ตำรวจไทยก็ควรศึกษาเอาไว้เป็น บทเรียน
เป็นความรู้ในการรับมือกับอาญากรรมแปลกๆ ใหม่ๆ!
