คอลัมน์ ชกไม่มีมุม

วงค์ ตาวัน

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีข่าวที่นำเสนอบนหน้าหนังสือพิมพ์ โดยเฉพาะในข่าวสด มีการร้องเรียนให้ตรวจสอบการจัดซื้อรถบรรทุกขนาด 1 ตัน ของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จำนวน 220 คัน วงเงิน 179 ล้านบาท

ไม่ใช่แค่ใบปลิวโจมตี แต่เป็นการทำหนังสือยื่นถึงปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ช่วยสอบสวนเพื่อให้โปร่งใส

หลังจากมีข่าวออกไป ผู้รับผิดชอบทั้งรัฐมนตรีและอธิบดีกรมอุทยานฯ ได้ออกมาชี้แจงตอบโต้หลายระลอก

ยืนยันว่าทุกอย่างถูกต้อง

ขณะเดียวกัน ในเว็บไซต์ขององค์กรด้านต่อต้านการคอร์รัปชั่น และหน่วยงานตรวจสอบด้านการทุจริต ให้ความสนใจ นำข่าวนี้ไปเผยแพร่อย่างกว้างขวาง

เรื่องนี้จึงต้องทำให้เกิดความกระจ่างอย่างถึงที่สุด!

สำหรับหนังสือร้องเรียนดังกล่าว ได้อ้างอิงนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในด้านปราบปรามการทุจริตในวงราชการ รวมทั้งการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง

จึงขอให้มีการตรวจสอบว่า มีการกระทำที่สวนทางกับนโยบายนี้ ในกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯหรือไม่

ผู้ร้องเรียนระบุว่า การจัดซื้อรถบรรทุกดังกล่าว มีการเรียกบริษัทรถมาต่อรองเรื่องการกำหนดสเป๊กเพิ่มเติม เพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่บริษัท

โดยบริษัทจะต้องจ่ายเงินให้คันละ 40,000 บาท เป็นเงินเกือบ 10 ล้านบาท โดยอ้างว่าจะต้องนำเงินจำนวนดังกล่าวไปให้ผู้ใหญ่

หนังสือร้องเรียนอ้างด้วยว่า ขณะนี้มีการจ่ายเงินกันเรียบร้อยแล้ว

สามารถตรวจสอบได้จากการเบิกจ่ายบัญชีของบริษัท ที่มีการนำเงินจำนวนมากออกมาจ่าย!

ส่วนรายละเอียดมากกว่านี้ คงทราบกันไปแล้วในการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน รวมทั้งคงจะอยู่ในหนังสือร้องเรียนดังกล่าว

แน่นอนว่า เมื่อมีการร้องเรียนก็ต้องมีการสอบสวน และต้องยอมรับว่า การจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยราชการ ที่ใช้วงเงินนับร้อยล้าน มักมีข้อครหามาตลอด

ในฐานะประชาชนเจ้าของเงินภาษีย่อมต้องสนใจ

สำหรับกรณีนี้นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรม อุทยานฯ รวมทั้งพล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทส.

ได้ออกมายืนยันว่า ไม่มีทุจริต!

แต่ถ้าจะให้ดีกว่านี้ น่าจะมีหน่วยงานที่เป็นกลางเข้ามาตรวจสอบกันอีกชั้น

ประกอบกับเห็นท่าทีของนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรียุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ หรือศอตช.

ซึ่งบอกว่า ได้มอบนโยบายการทำงานเชิงรุกให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐหรือป.ป.ท.เอาไว้แล้ว

โดยนายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการป.ป.ท.ก็บอกว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการของป.ป.ท.เข้าตรวจสอบแล้ว ในทันทีที่เห็นข่าว

เอาเป็นว่าประชาชนรอคำตอบอยู่!!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน