คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
วงค์ ตาวัน
โครงการจัดซื้อรถบรรทุกดีเซล ขนาด 1 ตัน 2400 ซีซี จำนวน 220 คัน วงเงิน 179 ล้านบาท ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่อใช้เป็นยานพาหนะสำหรับบรรทุกเจ้าหน้าที่และสิ่งของในการปฏิบัติงาน ที่เพิ่งเป็นข่าวโด่งดัง
กำลังเป็นที่จับตาขององค์กรด้านต่อต้านคอร์รัปชั่น มีการเผยแพร่ข้อมูลและติดตามความคืบหน้าเรื่องนี้ปรากฏในเว็บไซต์ของหลายๆ องค์กรโดยตลอด
เนื่องจากมีการยื่นหนังสือร้องเรียน เพื่อขอให้ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตรวจสอบว่ามีความไม่ชอบมาพากลหรือไม่
โดยในเอกสารร้องเรียนได้อ้างข้อพิรุธหลายประการ
แต่เรื่องนี้นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ออกมาแถลงชี้แจงในรายละเอียดยืนยันว่าโครงการนี้ถูกต้องโปร่งใส
ขณะที่พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ หรือ บิ๊กเต่า รมว.ทส. ก็ออกมาร่วมการันตีด้วย!
กระนั้นก็ตาม เมื่อเรื่องนี้ดังขึ้นมา มีการตรวจสอบเอกสารการจัดซื้อรถบรรทุกดังกล่าว
พบประเด็นหนึ่ง ที่นำมาสู่เสียงวิพากษ์วิจารณ์กันมาก
นั่นคือ ในการอนุมัติจัดซื้อ มีผู้เกี่ยวข้อง 3 คน ระดับกระทรวง 2 คน ระดับกรมอุทยานฯ 1 คน
ได้ลงนามอนุมัติ โดยระดับบิ๊กทั้ง 3 คน เซ็นพร้อมกันในวันที่ 16 พฤษภาคม 2559
ทั้งที่โดยปกติ ตามขั้นตอนการเดินเอกสารนั้น มักจะไม่ค่อยพร้อมเพรียงในวันเดียวกัน
ประเด็นนี้เลยเกิดข้อสงสัย!
ไม่เท่านั้น ยังมีการจับตาข้าราชการรายหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้เดินงานโครงการจัดซื้อรถบรรทุก 179 ล้านบาท นี้
แล้วหลังจากนั้นไม่นานก็ได้รับการโปรโมตขึ้นเป็นรองอธิบดี แบบรวดเร็วฉับไว
สำหรับประเด็น 3 บิ๊ก สามัคคีลงนามพร้อมกันในวันเดียวกันนั้น มีนักข่าวไปถามบิ๊กเต่า รัฐมนตรีทส.
ได้รับการชี้แจงว่า เรื่องที่เซ็นอนุมัติแทบจะจำไม่ได้ เพราะมีหลายเรื่องที่ต้องเซ็น ไม่ใช่มีแค่เรื่องรถบรรทุกของกรมอุทยานฯ ตามหลักการแล้ว ปลัดกระทรวงจะต้องพิจารณาความเห็นชอบเสียก่อน แล้วจึงนำมาให้ตนเซ็นอนุมัติตามขั้นตอน
แต่ไม่ใช่ว่าลงนามอนุมัติแล้วจะแปลว่ามีส่วนร่วมในการทุจริตไปด้วย!
ระดับรัฐมนตรีชี้แจง ต้องให้เกียรติเชื่อถือกัน
แต่ก็ต้องติดตามข่าวกันต่อไป
เมื่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ปปท. สนใจเข้ามาตรวจสอบแล้ว
ควรจะมีคำตอบชัดเจนต่อสังคม
อย่าให้เสียชื่อกระทรวงที่มีรัฐมนตรีร่วมกอดคอกันในหมู่แกนนำคสช.!