คอลัมน์ ชกไม่มีมุม

วงค์ ตาวัน

ธรรมชาติขององค์กรตำรวจนั้น ดังที่รู้กันอยู่ว่า ไม่มีความเข้มแข็งภายใน ประเภทปกป้องกันเองแบบถึงไหนถึงกันแทบไม่มีให้เห็น ตำรวจคนไหนไปพลาดพลั้งทำอะไรผิด ก็มีเพื่อนร่วมหน่วย ร่วมโรงพัก พร้อมจะให้ข้อมูลอย่างละเอียด ไม่มีใครช่วยใครหรอก

ลักษณะอย่างนี้ มีทั้งข้อดีและข้อเสีย

ข้อดีสำหรับประชาชนก็คือ ทำให้เราสามารถตรวจสอบหน่วยงานนี้ได้ไม่ยาก

ไม่ใช่หน่วยประเภท บุคคลภายนอกห้ามเข้า ไม่สามารถไปเห็นอะไรต่อมิอะไรภายในหน่วยได้

แต่สำหรับตำรวจ ไม่ใช่

ก่อนหน้านี้มีข่าวใหญ่ คดีตำรวจระดับผู้กำกับฯหัวหน้าโรงพัก ไปบงการอุ้มฆ่าสาวทอม จะเห็นได้ว่า องค์กรไม่ปกป้องอะไรเลย ไฟเขียวผ่านตลอด โดยจับกุมดำเนินคดีหนักหน่วง

ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน ได้รับสัญญาณจากผบ.ตร. ให้เอาผิดอย่างถึงที่สุด ตามจนไปเจอศพ ผู้ตาย กลายเป็นคดีฆาตกรรมเต็มตัว!

นั่นคือตัวอย่างที่บ่งชี้ธรรมชาติขององค์กรนี้

มาถึงคดีครูรถชน ที่เป็นข่าวใหญ่วันนี้

กระแสตอนแรก ไปลงที่พนักงานสอบสวนผู้ทำสำนวนคดี โดนถล่มแทบจมดิน ว่าไม่รอบคอบและดำเนินคดีผิดคน!?!

มีหรือที่องค์กรตำรวจจะออกมาปกป้องพ.ต.ท.คนหนึ่ง แบบทันทีทันควัน

แต่หลังจากที่พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. สั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่าทำคดีผิดพลาดหรือไม่

ทั้งให้พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น จเรตำรวจแห่งชาติ ลงไปตรวจสอบ

ทั้งยังมีพ.ต.อ.มานะ เผาะช่วย เลขาธิการสมาคมพนักงานสอบสวน ลงไปตรวจสอบการทำสำนวนของพนักงานสอบสวนรายนี้อย่างละเอียด

หลังจากได้ข้อเท็จจริงกระจ่างชัด องค์กรตำรวจจึงเริ่มออกมาให้ข้อมูลอีกด้านต่อสังคม

ไม่ได้เพื่อปกป้องคนสีเดียวกันอย่างแน่นอน แต่เมื่อพบว่าที่ถูกโจมตี ไม่เป็นเช่นนั้น เลยต้องออกมาทำความกระจ่าง!

ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่ครูที่ร้องเรียนว่าตนเองเป็นแพะ กลับไม่ยอมให้การกับพนักงานสอบสวน ขอให้การชั้นศาลเท่านั้น

ไม่ว่าจะด้วยการตรวจพิสูจน์หลักฐานอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ เกี่ยวกับตัวรถ สีรถ

ไม่ว่าจะเป็นพยานหลักฐานที่บ่งชี้ว่า คนที่ออกมารับแทนว่า เป็นคนชนเองไม่ใช่ครูสาวนั้น ได้ขายรถไปตั้งแต่ก่อนจะเกิดเหตุชนคนตายเสียอีก

รวมกับพยานหลักฐานอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้ฝ่ายตำรวจมั่นใจว่า สำนวนที่ทำไปนั้นไม่ผิดพลาด

ก็ขนาดผบ.ตร.ต้องออกมาเตือนด้วยตัวเองว่า ระวังจะพลิก กลายเป็นคดีแจ้งเท็จ

แสดงว่างานนี้ ตำรวจมั่นใจฝ่ายตนเองร้อยเปอร์เซ็นต์!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน