ชกไม่่มีมุม : นักกฎหมายล้วนสนใจคดีศึกษาเทือกธาริต

ชกไม่่มีมุม : คดีศึกษาเทือกธาริต – บรรดานักกฎหมาย ให้ความสนใจกับวันนัดฟังคำพิพากษาของศาลฎีกา ในคดีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ยื่นฟ้องนายธาริต เพ็งดิษฐ์ ฐานหมิ่นประมาท จากการให้ข่าวเรื่องการสอบสวนคดี 396 โรงพักทิ้งร้าง

โดยศาลฎีกานัดอ่านคำพิพากษาในเช้าวันนี้ 14 ธันวาคม

ที่นักกฎหมายต้องสนใจก็เพราะ เป็นการอ่านคำพิพากษาที่นำเอาระเบียบศาลฎีกาว่าด้วยการอ่านคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลฎีกา พ..2550 ข้อ3(3) ขึ้นมาใช้

ผู้รู้บอกว่า แทบจะไม่เคยเห็นการนำระเบียบนี้ออกมาใช้ เพราะโดยปกติ คำพิพากษาศาลฎีกาจะส่งไปให้ศาลอาญา ซึ่งเป็นต้นคดีทำหน้าที่อ่าน

แต่คดีที่นายสุเทพฟ้องนายธาริตว่าหมิ่นประมาทนี้ ศาลฎีกานำระเบียบดังกล่าวมาใช้เพื่ออ่านเอง ไม่ส่งไปอ่านที่ศาลอาญา

เมื่อโดยปกติไม่ได้อ่านที่ศาลฎีกา ก็เลยไม่มีห้องพิจารณาคดีหรือห้องอ่านคำพิพากษา

วันนี้จึงใช้ห้องพิจารณาคดีแผนกคดีอาญาของ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในศาลฎีกา ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ

เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง เมื่อวันก่อน นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม ได้กรุณาให้คำอธิบายว่า

การอ่านคำพิพากษาในคดีนายสุเทพฟ้องนายธาริตนี้ จะเป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 244 ประกอบมาตรา 252 ว่า ศาลฎีกาจะอ่านคำพิพากษาหรือคำสั่งที่ศาลฎีกาหรือจะส่งไปให้ศาลชั้นต้นอ่านก็ได้

และระเบียบศาลฎีกาว่าด้วยการอ่านคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลฎีกา พ..2550 ข้อ3 (3)

กำหนดให้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาได้

ในคดีที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือเป็นที่สนใจของประชาชน หรือคดีอื่นใดซึ่งประธานศาลฎีกาเห็นสมควรให้อ่านคำพิพากษาหรือคำสั่งที่ศาลฎีกา

โฆษกศาลยุติธรรม อธิบายด้วยว่า ถ้าเห็นสมควรให้อ่านคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลฎีกาที่ศาลฎีกา จะมีการทำบันทึกเสนอความเห็นเสนอขึ้นมา ผ่านรองประธานศาลฎีกาที่มีอาวุโสสูงสุดหรือผู้ที่ประธานศาลฎีกามอบหมาย เพื่อให้ประธานศาลฎีกามีคำสั่งก็ได้

ขณะเดียวกัน กรณีเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม นายธาริตได้มายื่นคำร้องขอถอนคำให้การเดิมและเปลี่ยนคำให้การเป็นรับสารภาพ พร้อมกับขอเลื่อนการอ่านคำพิพากษาออกไป 60 วันนั้น

โฆษกศาลบอกว่า ศาลฎีกาจะพิจารณาและมีคำสั่งต่อไป!

นี่จึงเป็นคดีที่นักกฎหมายล้วนสนใจ ไม่แค่กรณีศาลฎีกาอ่านคำพิพากษาฎีกาเอง

แต่ยังมีประเด็น ที่นายธาริตเป็นฝ่ายชนะคดีนี้มา 2 ศาล กลับเปลี่ยนท่าที

ทั้งติดต่อขอขมา ทั้งไปยื่นคำให้การใหม่ต่อศาลฎีกาเป็นรับสารภาพ เพื่อขอความเมตตา

แต่นายสุเทพ ไม่ยอมรับขอขมา ไม่ถอนคดี อย่างหนักแน่นและมั่นใจ

เอาเป็นว่า 9 โมงเช้าวันนี้ จะได้รู้กันว่าคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลฎีกาจะออกมาอย่างไร!

โดย : วงค์ ตาวัน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน