คอลัมน์ ชกไม่มีมุม

วงค์ ตาวัน

มีข่าวมาบอกกล่าวคนในเมืองคอนกรีต เช่น กรุงเทพมหานคร อันเต็มไปด้วยตึกสูงเบียดเสียดกัน พร้อมลมร้อนจากเครื่องทำความเย็น ท่ามกลางแดดที่ร้อนเปรี้ยงด้วยปราศจากร่มเงาไม้ใหญ่ จนวันนี้ คนเมืองฟ้าอมรแห่งนี้ ต่างมุ่งหาต้นไม้ ความร่มรื่นจากธรรมชาติเป็นเรื่องสำคัญ

เพราะในขณะที่คนเมืองกรุง ถวิลหาร่มไม้นั้น เราก็มักจะเห็นภาพ เจ้าหน้าที่หน่วยงานราชการ ตัดหั่นต้นไม้กิ่งไม้ ที่ไปพาดผ่านเสาไฟฟ้า หม้อแปลงไฟฟ้า สายไฟฟ้า ริมถนนหนทาง

ตัดกันแบบชนิดที่เปรียบกันว่า เหมือนการฆ่าหั่นศพ เรียกว่า ตัดอย่างไม่ปรานีปราศรัย

รวมไปถึงในตรอกซอกซอย ที่ต้นไม้ในบ้านเรือนประชาชนที่ปลูกริมรั้ว ก็ไม่พ้นโดนเจ้าหน้าที่บางหน่วย ตัดฟันแบบแหลกลาญ

ถ้าจำเป็นต้องเดินสายไฟใหม่ สายไฟเพิ่ม หรือเห็นว่ากิ่งก้านยื่นยาว จะไปกระทบต่อความสะดวกของระบบไฟฟ้า

แต่ตอนนี้มีข่าวดีแล้ว เพราะกรุงเทพมหานคร โดยพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯคนปัจจุบัน มีแนวทางใหม่!

เดินหน้าโครงการ ตัดแต่งต้นไม้ด้วย”รุกขกร”

รุกขกรหรือนักศัลยกรรมต้นไม้ใหญ่ ซึ่งเป็นผู้รักในต้นไม้ ศึกษาเรียนรู้การดูแลรักษาอย่างเข้าใจธรรมชาติของต้นไม้มาอย่างดี

ผ่านการอบรมจากหน่วยงานด้านป่าไม้ หรือนักศึกษาสาขาด้านนี้ในมหาวิทยาลัยต่างๆ

ไปจนถึงชาวบ้านที่รักและเข้าใจในต้นไม้ใบหญ้า และเรียนรู้การดูแลมาอย่างดี

ขณะนี้กทม.ยุคผู้ว่าฯ ขยันขันแข็งและติดดิน ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการประสานงานกับเหล่ารุก ขกรทั่วกรุง! โดยกำลังจัดทำทะเบียน สถานที่ติดต่อ เพื่อที่ว่า หากจะต้องลงมือตัดแต่งต้นไม้ ที่กระทบต่อสาธารณูปโภคต่างๆ

กทม.จะเข้ามารับผิดชอบแทนหน่วยงานอื่น เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบด้านต้นไม้เอง

จากนั้นกทม.จะประสานกับรุกขกรอาสาสมัคร ที่ขึ้นทะเบียนเอาไว้แล้วในพื้นที่นั้นๆ ให้เข้ามาร่วมกับเจ้าหน้าที่เขตของกทม. ในการลงมือตัดแต่งต้นไม้ตามเป้าหมาย

จะได้ตัดแต่งออกมาอย่างเหมาะสม ไม่กระทบต่อ สิ่งปลูกสร้างหรือสาธารณูปโภค!

พร้อมกับตัวต้นไม้เอง ก็ยังคงงดงามโดดเด่นเป็นสง่า

เพราะการตัดกิ่งไม้เหล่านี้ ไม่จำเป็นต้องลงมือหั่นแบบตัดโกร๋นไปหมด

เลือกเฉพาะกิ่งก้าน ที่มีผลกระทบ หรือรู้ว่าควรจะลิดกิ่งไหน เพื่อทำให้ดูโปร่ง ไม่ต้านลม ไม่ก่ออันตราย โดยยังคงสภาพความงามแผ่กิ่งก้านอย่างได้รูปทรง

ที่สำคัญยังคงสร้างร่มเงาและความร่มเย็น ให้กับคนในเมืองคอนกรีตได้เป็นอย่างดี!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน