เพลงแห่งปี มาถูกที่ถูกเวลา : ชกไม่มีมุม โดย…วงค์ ตาวัน

เพลงแห่งปี มาถูกที่ถูกเวลา – เข้าสู่ปีพ.ศ.ใหม่ เข้าไปในยูทูบเห็นยอดคนเข้าดูเพลงแร็พประเทศกูมี เกินกว่า 50 ล้านวิวแล้ว เป็นจำนวนที่มากมายมหาศาลจริงๆ และแรงทะลุข้ามปีจริงๆ

นี่คือเพลงแร็พ และวงดนตรีแร็พ ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในรอบปี 2561 ที่ผ่านมา

จนหลายสำนักข่าวยกให้เป็นบุคคลแห่งปี ในฐานะเจ้าของบทเพลงที่มากด้วยพลังในทางการเมือง

จุดสำคัญ อยู่ที่เนื้อหาของเพลง ตรงใจคนไทยส่วนใหญ่มากที่สุด ด้วยการป่าวประจาน ประชดประชัน เสียดสีผู้มีอำนาจในสังคมไทย

ยุคที่ผู้มีอำนาจไม่ได้มาด้วยหลักประชาธิปไตย ไม่ได้มาด้วยเสียงของประชาชนส่วนใหญ่ จึงนำมาสู่ปัญหามากมายหลายด้าน

ไม่ว่าจะด้านสิทธิเสรีภาพ ในการพูดและแสดงออก กระทั่งไม่สามารถตรวจสอบผู้มีอำนาจได้

ขณะที่ความตายของประชาชนที่ต่อต้านอำนาจรัฐ ไปๆ มาๆ เหมือนจะตายฟรี เหมือนที่เคยมีศพถูกเก้าอี้ฟาด เมื่อ 6 ตุลา 2519

รวมทั้งเป็นยุคที่คนรวยมีอภิสิทธิ์เหนือคนยากคนจนอย่างโจ่งแจ้ง

ทั้งหลายทั้งปวงนำมาสู่ข้อสรุปอันกระชับว่า ในประเทศกูเท่านั้นที่มี

ประเทศกูมี!!

ขณะเดียวกัน บทเพลงนี้ เป็นอีกครั้งที่ยืนยันได้ว่า พลังด้านเสียงเพลง มีบทบาทสำคัญเสมอในทางการเมือง โดยเฉพาะในการต่อสู้เพื่อคนส่วนใหญ่

เสียงเพลง ภาพวาด บทกลอนบทกวี งานศิลปะต่างๆ มีส่วนช่วยผลักดันให้สังคมก้าวไปข้างหน้าได้ในทุกยุค

เพียงแต่ถึงวันนี้ ผู้เคยมีบทบาทเป็นศิลปินเพลงเพื่อชีวิตนักกวีเพื่อประชาชน จำนวนหนึ่ง กลายเป็นพวกตกเวทีประวัติศาสตร์ไปแล้ว

กลายเป็นนักคิดนักเขียนนักเพลงที่คิดตามการเปลี่ยนแปลงไม่ทัน

กลายเป็นฝ่ายล้าหลังไปอย่างน่าเสียดาย

ยังดีที่มีศิลปินยุคใหม่เกิดขึ้นมา ทำหน้าที่ใช้เสียงเพลงเพื่อส่วนรวมแทนรุ่นเก่าที่ตกยุคไป!

ในอารมณ์อ่อนไหวของศิลปินนั้น ถ้าจิตใจส่วนลึกไม่เชื่อมั่นประชาชนคนยากไร้ แถมดูหมิ่นดูแคลนคนชนบทท้องไร่ท้องนา

มองแต่ว่าชาวบ้านโง่ เป็นเหยื่อซื้อเสียงของนักการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องก่อนเก่า ที่เปลี่ยนไปมากแล้ว

ด้วยความคิดเช่นนี้เลยไม่เชื่อมั่นในประชาธิปไตยและการเลือกตั้ง ทั้งที่เป็นระบบที่ประชาชนมีส่วนร่วมมากที่สุด

แล้วไปหลงใหลอำนาจที่ประชาชนไม่มีส่วนร่วมแทน จากสำนึกกบฏหมดสิ้นเป็นสำนึกสยบยอม

จนมีบทเพลงแร็พกูมีนี่แหละ ที่บ่งบอกความต่างระหว่างศิลปินตกยุคกับยุคใหม่ได้!

คลิกอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน