สถานการณ์ใหม่ หลังเปิดชื่อชัชชาติ
สถานการณ์ใหม่ หลังเปิดชื่อชัชชาติ : พิษจากกระแสการเลื่อนวันเลือกตั้ง จาก 24 กุมภา พันธ์ ไปสู่เดือนมีนาคม ทำให้เกิดคำถามที่พุ่งใส่พรรคการเมืองฝ่ายคสช.ว่า เลื่อนเพราะกลัวแพ้ใช่ไหม
แต่ถ้าฟังจากคนรอบข้างแกนนำคสช. จะได้รับ คำตอบอย่างมั่นอกมั่นใจว่า ตามรายงานประเมินผลเลือกตั้งล่าสุดนั้น มั่นใจว่าชนะแน่
ส่วนที่มาของรายงานนั้นเป็นอย่างไร
ตรงกับข้อมูลของหน่วยงานด้านข่าวกรองที่เพิ่งประชุมไปล่าสุดหรือไม่ ควรต้องกลั่นกรองกันให้ดี!?
ความมั่นใจจากฝ่ายคสช.อาจจะมาจาก ความเชื่อที่ว่ามาตรการอัดฉีดทุกชนิด ที่โถมลงสู่ชาวบ้านในช่วงโค้งสุดท้ายนี้ มีประสิทธิผลอย่างสูงส่ง
ป่านนี้คนรู้จักแต่บัตรคนจน 500 บาท กลบบัตร 30 บาทไปหมดแล้ว อะไรทำนองนั้น!?!
ผสมเข้ากับกระบวนการเดินสายหาเสียง มุ่งเน้นว่า ผลงาน 4 ปียุคพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คือความสงบเรียบร้อย ไม่มีม็อบตีกัน เสียงปืน เสียงระเบิด
จะเลือกพรรคที่กลับมาแล้วมีม็อบหรือ
นั่นคือความเชื่อมั่นของฝ่ายคสช.ในวันนี้
แต่ความจริงต้องพิจารณากันให้ดี ลงให้ลึกว่า บัตร 30 บาทรักษาทุกโรคนั้น กลบกันได้ง่ายๆ หรือไม่!?
แล้วเป้าหมายปลุกผีความขัดแย้งระหว่างม็อบสีต่างๆ นั้น มีผลทำลายพรรคไหนได้บ้าง
น่าจะไม่มีผลต่อพรรคที่เพิ่งชู ว่าที่นายกฯ แกร่งที่สุดในปฐพี!
ว่าที่นายกฯของพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่บุคคลที่อยู่ในวงจรขัดแย้งการเมืองที่ผ่านมาแต่อย่างใด
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เคยเป็นรัฐมนตรีในยุคยิ่งลักษณ์ แต่ไม่ใช่ฐานะนักการเมือง แต่เป็นนักบริหารมืออาชีพ และมีผลงานโครงการพัฒนาประเทศที่คนยังจดจำกันได้ดี
พอเปิดชื่อนี้ออกมา นอกจากพ้นภาพขัดแย้งการเมืองแล้ว
ยังเรียกเสียงฮือฮาทั้งคนรุ่นใหม่ในฐานะเน็ต ไอดอลคนดัง
และคนรุ่นกลาง ที่ต้องการให้บ้านเมืองพัฒนารุดหน้าไปอย่างก้าวกระโดด หลังจากเสียเวลามา 4-5 ปี
ผลสำรวจของข่าวสดออนไลน์เมื่อไม่นานมานี้ ที่คะแนนนิยมของชัชชาตินำโด่งนั้น เป็นข้อ เท็จจริงที่น่าสนใจ นำไปศึกษา
เป็นคู่ชิงเก้าอี้นายกฯ ที่พรรคฝ่ายคสช.ผู้ท้าชิง ต้องไปนั่งขบคิดปรับเปลี่ยนแนวทางกันใหม่โดยไว
จะใช้กลเม็ดเด็ดพรายอย่างไรก็ตาม แต่ไม่ใช่ด้วยแผนทำลายไร้คุณธรรม
ประชาชนล้วนรู้เท่าทันข้อมูล และเป็นผู้ตัดสินตัวจริง!
วงค์ ตาวัน
คลิกอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง