ชกไม่มีมุม : ฤทธิ์กัญชา ฉุดคะแนนเลือกตั้ง
ชกไม่มีมุม : สภาพเศรษฐกิจที่ติดๆ ขัดๆ ตลอด 4-5 ปีที่ผ่านมา แล้วจู่ๆ ก็มาอู้ฟู่เพราะรัฐบาลทุ่มแหลกในช่วงปลายปี 2561 ต่อเนื่องถึงช่วงต้นปีนี้ เป็นประเด็นที่ประชาชน จะเป็นผู้ตัดสินเองว่า ควรจะไว้วางใจให้พรรคการเมืองในขั้วรัฐบาลนี้ กลับมาบริหารประเทศอีกหรือไม่
ถ้าการอัดฉีดในช่วงท้ายนี้ ทำให้ชาวบ้านหักลบกับสภาพ ในตลอด 4-5 ปีก่อนหน้านี้ได้
เขาก็อาจจะเลือกพรรคพลังประชารัฐ เพื่อให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เป็นนายกฯ ต่อไป!?
แต่ถ้าเงินทองที่ได้ๆ มา เขารู้สึกว่าก็แค่ประเดี๋ยวประด๋าว ก็อาจจะไม่สร้างความประทับใจในเรื่องฝีมือด้านเศรษฐกิจ
อย่างนี้ก็น่าหนักใจแทน
ยิ่งถ้ามองในแง่เงินรายได้อย่างเป็นระบบและยั่งยืน เขาก็อาจต้องตัดสินใจเลือกพรรคการเมืองที่เคยโชว์ความสามารถให้เห็นมาแล้ว
ประเด็นทางด้านเศรษฐกิจก็อาจจะยังเป็นปัญหาใหญ่ของพรรคขั้วรัฐบาล ในการจูงใจประชาชนให้มาเทคะแนนให้ในวันเลือกตั้ง
แต่ก็ต้องคอยดูกันต่อไป
เพราะยังมีเวลาอีกประมาณ 2 เดือน กว่าจะถึงวันเลือกตั้ง ในเดือนมีนาคม
อาจมีมาตรการใหม่ๆ จากรัฐบาล คสช. เพื่อเทเงินทอง ออกมาให้ประชาชนตัดสินใจใหม่ก็ได้
ต้องยอมรับว่า การทำหน้าที่เป็นรัฐบาลก็เหมือนเป็นฝ่ายตั้งรับ อะไรที่ผิดๆ พลาดๆ จะกลายเป็นจุดบอดเสียคะแนนนิยมได้ง่ายๆ
อย่างวันนี้ปัญหาฝุ่นเข้าขั้นวิกฤต เป็นอีกประเด็นใหญ่ของคนเมืองหลวง ที่ทำให้รัฐบาลถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก!
ยิ่งมีรายการกู๊ดมันเดย์ ออกมาเสนอทางแก้เรื่องฝุ่นอย่างเป็นระบบ ยิ่งกลายเป็นข้อเปรียบเทียบ
เปรียบเทียบแล้วนำไปสู่การตัดสินใจวันเข้าคูหา
อีกเรื่องที่หนักหนาสาหัสไม่แพ้กัน คือ ข้อเรียกร้องจากองค์กรภาคประชาชนที่ผลักดันให้กัญชาสามารถใช้ประโยชน์ทางการแพย์ได้
แล้วเกิดความไม่พอใจ ว่ามีการผลักดันกฎหมาย แต่ไม่รอบคอบ รวมทั้งรัฐบาลไม่ยอมแก้ปัญหาการจดสิทธิบัตรกัญชาของต่างชาติให้เด็ดขาด
ลงเอยกลุ่มองค์กรเหล่านี้เห็นว่า ทำไปทำมากัญชา กลายเป็นเอื้อประโยชน์ให้บริษัทยาข้ามชาติมากกว่า
ถึงเวลานี้บรรดาองค์กรภาคประชาชน กลุ่มมหาวิทยาลัยรังสิต เริ่มหยิบประเด็นการเสียประโยชน์ด้านกัญชา
เพื่อใช้ตัดสินใจในวันเลือกตั้งขึ้นมาอีกกรณีแล้ว
เห็นทีบิ๊กตู่ต้องเร่งจัดการเรื่องปัญหาการออกกฎหมายซ้ำซ้อน ทำให้กฎหมายรอบคอบรอบด้าน และเคลียร์ประเด็นสิทธิบัตรของต่างชาติให้ได้
ไม่งั้นฤทธิ์กัญชาจะทำเอารัฐบาลเดินเป๋ เสียคะแนนเลือกตั้งไปอีกง่ายๆ!