ชกไม่มีมุม : เมื่อเลือกตั้งชัด สู่ช่วงกดดันหนัก
ชกไม่มีมุม : เมื่อกกต.กำหนดวันเลือกตั้งอย่างเป็นทางการแล้ว คือ วันที่ 24 มีนาคม อันเป็นขั้นตอนต่อเนื่องหลังจากพระราชกฤษฎีกาให้เลือกตั้งมีผลบังคับใช้ จึงเป็นอันว่า วันเวลาที่ประชาธิปไตยจะกลับคืนมาสู่มือประชาชน การมีส่วนร่วมในการตัดสินใจทางการเมืองของประชาชนคนไทย อยู่แค่เอื้อมแล้ว
แม้ว่าจะเลื่อนแล้วเลื่อนอีก หนสุดท้ายจาก 24 กุมภาฯ ก็กลายเป็น 24 มีนาฯ
อันที่จริงช่วงเวลาสำหรับการประกาศพระราชกฤษฎีกาในราชกิจจานุเบกษานั้น เดิมกำหนดเอาไว้ในวันที่ 2 มกราคม
แต่เมื่อวันมีผลบังคับใช้พระราชกฤษฎีกา ขยับมา 21 วัน เป็น 23 มกราคม ย่อมส่งผลให้วันเลือกตั้งต้องเลื่อนไป 1 เดือน
ไม่ว่าจะอย่างไร ก็คงต้องทำใจ คิดเสียใหม่ว่า มาช้าย่อมดีกว่าไม่มาเลย ได้เลือกตั้งช้าก็ดีกว่าไม่ได้เลือกเลย!
ขณะเดียวกันเมื่อเข้าช่วงของการนับถอยหลังวันเลือกตั้ง เช่นนี้แล้ว
กำลังจะเปิดตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ไปจนถึงบัญชีผู้ได้รับเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคต่างๆ
ต้องจับตามองไปที่พรรคพลังประชารัฐ จะเข้าสู่บรรยากาศ ถูกสังคมกดดันอย่างหนักอีกครั้ง
เช่น 4 รัฐมนตรี ที่มีตำแหน่งสำคัญๆในพรรค ทั้งหัวหน้า รองหัวหน้า เลขาธิการ และโฆษกพรรค
คงถึงเวลาต้องตัดสินใจแล้ว เพื่อลดแรงกดดันจากเสียงเรียกร้องให้ลาออก เพื่อไม่เป็นการเอารัดเอาเปรียบพรรคอื่น
จะยังมีอำนาจหน้าที่ในรัฐบาล และบริหารพรรคการเมืองไปพร้อมๆกัน จะฝืนต่อไปไหวหรือ
แต่สังเกตจากท่าทีของ 4 รัฐมนตรีดังกล่าว พอจะเชื่อได้ว่า คงเตรียมหนทางยอมทิ้งเก้าอี้ในรัฐบาลแล้ว!?!
โดยคาดเดาได้ว่า น่าจะมีการตัดสินใจในช่วงปลายเดือนมกราคมหรือต้นกุมภาพันธ์
ความจริงถ้าเลือกทางลาออก จะเป็นผลดีต่อ 4 รัฐมนตรี ดังกล่าว จะได้พ้นจากข้อครหา ไม่ต้องทนฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์เสียหาย
โล่งหูและโล่งอก
แล้วต่อจากนั้น เมื่อ 4 รัฐมนตรีลาออก คิวต่อไป ก็จะพุ่งแรงกดดันไปที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี!
เพราะแน่ยิ่งกว่าแช่แป้ง จะต้องมีชื่อในบัญชีนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ
การจะนั่งเก้าอี้นายกฯ ต่อไป พร้อมกับเตรียมเป็นนายกฯ อีกสมัยในบัญชีของพรรคการเมือง
ก็ต้องเตรียมล้างหูรอเอาไว้ได้เลย
ทุกย่างก้าวจะต้องถูกตรวจสอบถูกจ้องจับผิด
แล้วจะมีผลต่อการเพิ่มหรือฉุดคะแนน ในการเลือกตั้งของพรรคพลังประชารัฐไปด้วย แน่นอน!