ยังไม่ถึงขนาดมีเจตนา ล้มล้างการปกครอง
คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
วงค์ ตาวัน
ยังไม่ถึงขนาดมีเจตนา ล้มล้างการปกครอง – เมื่อพรรคไทยรักษาชาติหรือทษช. โดนยุบไปเรียบร้อยแล้ว ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเมื่อ 7 มีนาคมที่ผ่านมา โดยให้ยุบพรรค และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 10 ปี
เท่ากับว่า ในการเลือกตั้ง 24 มีนาคม ซึ่งยังคงมีชื่อ ผู้สมัครและโลโก้พรรคทษช. ปรากฏอยู่ในบัตรเลือกตั้ง
แต่ใครขืนไปเลือกผู้สมัครพรรคนี้ จะกลายเป็นเสียคะแนนไปสูญเปล่า
ดังนั้นคนที่ตั้งใจจะเลือกทษช. ต้องหันไปเลือกผู้สมัครพรรคอื่นแทน
โดยคาดกันว่า คะแนนของผู้สนับสนุนทษช. น่าจะไหลไปยังพรรคที่มีอุดมการณ์แนวเดียวกัน
พรรคอนาคตใหม่ พรรคเพื่อชาติ พรรคประชาชาติ น่าจะมีโอกาสได้คะแนนเหล่านี้ไปแทน!
ส่วนเพื่อไทยนั้น ความที่หนนี้ ส่งผู้สมัครไม่มากเขตนัก
จึงอาจจะได้คะแนนจากแฟนๆ ของทษช.ไม่มากมายเท่าที่ควร
คงต้องติดตามแนวโน้มการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างจดจ่อกันต่อไป หลังจากที่มีพรรคการเมืองหายไปจากเวทีแล้ว 1 พรรค
โดนยุบไปเสียก่อน ทั้งที่ยังไม่ถึงวันเลือกตั้ง
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ากรรมการบริหารพรรคนี้ ซึ่งโดนลงโทษเพิกถอนสิทธิทางการเมือง 10 ปี
อาจจะโล่งอกโล่งใจกันอยู่บ้าง เมื่อในคำวินิจฉัยได้ชี้เหตุผล ที่ให้ตัดสิทธิ์ตามระยะเวลาดังกล่าว
โดยระบุว่า เป็นการกระทำเพียงอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ยังไม่ถึงขนาดที่เป็นการกระทำโดยมีเจตนาล้มล้างการปกครอง
เป็นเพียงขั้นตอนหนึ่งของกระบวนการได้มาซึ่งนายกรัฐมนตรี ยังไม่ได้ก่อความเสียหายร้ายแรงต่อระบบ การปกครองของประเทศชาติ
นอกจากนี้เมื่อพิจารณาความสำนึกรับผิดชอบของคณะกรรมการบริหารพรรค ที่ได้น้อมรับพระราชโองการไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อมทันที ภายหลังที่รับทราบ
“แสดงให้เห็นว่ายังมีความเคารพต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่”
นี่คือเหตุผลที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติแบน 14 กรรมการบริหารพรรค 10 ปี
ทั้งเป็นเหตุผลที่น่าจะช่วยคุ้มครองแกนนำทษช.ต่อผลที่อาจจะตามมาในด้านอื่นๆ ได้ไม่น้อย
ส่วนแกนนำสำคัญๆ ระดับแม่เหล็กดึงดูดคะแนนนิยม แต่ไม่มีตำแหน่งเป็นกรรมการพรรค จากนี้ยังสามารถย้ายพรรคได้
เราก็ยังน่าจะได้เห็นคนเหล่านี้ขึ้นเวทีหาเสียง ในนามของพรรคอื่นแทน เป็นสีสันให้คึกคักได้ต่อไป!