เมื่อมาร์ค-อนุทิน เลิกกึ่งยิงกึ่งผ่าน
คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
โดย วงค์ ตาวัน
เมื่อมาร์ค-อนุทิน เลิกกึ่งยิงกึ่งผ่าน – มีหัวหน้าพรรคการเมือง 2 พรรค คือ ประชาธิปัตย์ และภูมิใจไทย ที่แสดงท่าทีอย่างชัดเจนและเปิดเผย ในช่วงโค้งสุดท้าย ว่าไม่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี อันเป็นการปรับเปลี่ยน ท่าทีของ 2 หัวหน้าพรรคดังกล่าว
หลังจากที่ก่อนหน้านี้จะออกแนวก้ำๆกึ่งๆ กึ่งยิงกึ่งผ่าน หรือที่เรียกกันว่าแทงกั๊ก
โดยเฉพาะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ งัดถ้อยคำจริงจัง มากหลักการ ว่าไม่สนับสนุนกระบวนการสืบทอดอำนาจ
ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล ย้ำว่า นายกฯต้องมาจากส.ส. ต้องมาจากเสียงข้างมากของสภาผู้แทนฯ และ ไม่เห็นด้วยกับการอิงเสียง 250 ส.ว.เพื่อเป็นนายกรัฐมนตรี
ผลจากการแสดงท่าทีที่ชัดเจนขึ้นดังกล่าว
ทำให้แกนนำพรรคการเมืองฝ่ายสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ ถึงกับเดือดปุดๆ ไปตามกัน!
ยิ่งกรณีนายอภิสิทธิ์ ถึงกับโดนถล่มทั้งจากแกนนำพลังประชารัฐ จากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และจากหัวหน้าพรรคอื่นๆ ที่เป็นขั้วคสช. ไปจนถึงปฏิกิริยารุนแรงจากแกนนำนกหวีดอีกบางส่วน
บ้างก็ว่าคงแค่กลยุทธ์หาเสียงในช่วงสุดท้าย บ้างก็ตั้งข้อกล่าวหาว่า ไปจับมือกับฝ่ายทักษิณแล้วใช่ไหม
แต่การตอบโต้นายอภิสิทธิ์ ไปจนถึงนายอนุทิน ที่ระบุว่า แค่การสร้างประเด็นเพื่อหาคะแนนในช่วงสุดท้ายนั้น
เป็นข้อสังเกตที่น่าสนใจมาก!?!
เหมือนกับฝ่ายที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เองพากันยอมรับว่า การออกมาโจมตี พล.อ.ประยุทธ์ การประกาศไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ ในช่วงท้ายนี้
เป็นวิธีหาเสียงที่ได้ผล!!
แสดงว่า การโชว์จุดยืนไม่ยอมรับการสืบทอดอำนาจ ไม่สนับสนุนคนที่ไม่ได้มาจากส.ส.ให้เป็นนายกฯ และ ต่อต้าน 250 ส.ว.มาชิงความได้เปรียบในการเป็นนายกฯ
ทำให้ได้คะแนนเสียงจากชาวบ้าน
ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง สะท้อนถึงสถานะของ พล.อ.ประยุทธ์ ในสนามเลือกตั้งในขณะนี้ได้หรือไม่
ในเมื่อการปฏิเสธ พล.อ.ประยุทธ์ แล้วจะเป็นการกวาดคะแนนมากมาย เท่ากับบ่งบอกอะไร!?
ทั้งหลายทั้งปวงแปลว่า ประชาชนส่วนใหญ่ผู้มีสิทธิ์มีเสียง เห็นพ้องต้องกันไปในทิศทางนี้ด้วยใช่หรือไม่
ถ้าอย่างนั้น พรรคซึ่งอยู่ตรงกันข้ามคสช.อย่างชัดเจน ไม่เคยก้ำๆกึ่งๆ
เช่น เพื่อไทย พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อนาคตใหม่
เลยไม่จำเป็นต้องปรับท่าทีหรือกลยุทธ์ใดๆ
บทสรุปของสถานการณ์ล่าสุดนี้ จึงต้องเพ่งมองพรรคฝ่ายคสช.ด้วยความห่วงใย!
