คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
วงค์ ตาวัน
จนป่านนี้แล้ว การยื่นร้องเรียน ขอให้ผู้ว่าฯสตง.และคณะกรรมการคตง. ตรวจสอบพฤติกรรมของป.ป.ช.ชุดก่อนหน้านี้ กรณีนำเงินงบประมาณแผ่นดิน ไปจ้างให้สภาทนายความฟ้องคดีต่างๆ ให้กับป.ป.ช. เป็นจำนวนเงินหลายล้านบาท อาจจะไม่ชอบด้วยบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ประมวลจริยธรรมของป.ป.ช. เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายต่อการใช้เงินงบประมาณแผ่นดิน
โดยยื่นเรื่องตั้งแต่เมื่อปลายปี 2557 จากนั้นสตง.ได้ตรวจสอบ คตง.ตั้งอนุกรรมการขึ้นมาไต่สวน
เท่ากับใช้เวลากว่า 2 ปีแล้ว แต่ยังไม่ได้บทสรุปเสียที!?
จนเป็นที่สงสัยไปทั่ว ว่าทำไมจึงล่าช้านัก
ขณะที่ผู้ร้องเรียนก็ใช่เลื่อนลอยไร้ตัวตน โดยทนายความผู้ยื่นร้องเรียน ก็ทำหนังสือทวงถามครั้งแล้วครั้งเล่า
รวมทั้งมีหลักฐาน เอกสาร ข้อกฎหมายใดเพิ่มเติม นำเสนอพยานเสริม ก็นำไปมอบให้ครั้งแล้วครั้งเล่าเช่นกัน
เพื่อหวังให้เกิดความจริงรวดเร็วที่สุด แต่จนบัดนี้ก็ยังเงียบเชียบอยู่
แม้จะเห็นด้วยว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ต้องตรวจสอบกันอย่างละเอียดรอบคอบรอบด้าน
แต่ความล่าช้าเกินไป ก็อาจเกิดข้อวิพากษ์วิจารณ์ในด้านไม่ดีงาม
ทำนองว่า ป.ป.ช.ที่เป็นองค์กรหลักในการปราบปรามทุจริต ต้องโปร่งใสกว่าใครอื่น แต่พอถูกตั้งข้อกล่าวหา การตรวจสอบกลับไม่มีความกระจ่างให้เห็นเสียที
อีกทั้งการร้องเรียนเรื่องการใช้เงินงบประมาณแผ่นดินนี้ บรรดาหน่วยราชการต่างๆ พากันเฝ้ารอผลการตรวจสอบ
ประชาชนและสื่อมวลชนก็จับตามอง
เพื่อให้เกิดบรรทัดฐานที่ถูกต้องแก่ทุกองค์กร!
อีกทั้งผู้ร้องเรียนยังเรียกร้องต่อสตง.และคณะกรรมการคตง.ด้วยว่า
ผลการวินิจฉัยเรื่องนี้ จะต้องกระจ่างในทุกประเด็น ทุกปัญหา ทุกข้อกฎหมาย
โดยมติที่สรุปออกมา จะต้องเป็นที่ยอมรับของผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านกฎหมาย ด้านการเงินการคลัง ด้านภาษีอากร ต่อเจ้าพนักงานหน่วยต่างๆ ในกระทรวงการคลัง และในกระทรวงยุติธรรม
เพราะแนวทางปฏิบัติต่อการใช้เงินงบประมาณแผ่นดินอย่างสุจริตไม่เสียหาย เป็นเรื่องใหญ่จริงๆ
แล้วหากจะถามว่า ป.ป.ช.ชุดปัจจุบันเล่า ได้มีแนวทางปฏิบัติในการฟ้องร้องคดีต่างๆอย่างไร
คำตอบก็คือ ป.ป.ช.ชุดปัจจุบัน ไม่มีการว่าจ้างสภาทนายความ การฟ้องร้องคดีต่างๆ มีเจ้าพนักงานด้านคดีของ ป.ป.ช.เป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด
นี่เป็นการปฏิบัติของป.ป.ช.ชุดปัจจุบัน ถือเป็นข้อเปรียบเทียบที่เห็นได้ชัด
แล้วผู้ว่าฯสตง.และคณะกรรมการคตง.เล่าเห็นเป็นเช่นไร และเมื่อไรจะตอบเสียที!
