คนหนุ่มสาวกำลังจับตา การเมืองไม่ชอบมาพากล
คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
คนหนุ่มสาวกำลังจับตา การเมืองไม่ชอบมาพากล – มีคำเปรียบเปรยถึงพลังคนวัยหนุ่มสาวว่า เหมือนอาทิตย์ยามเช้า 8-9 นาฬิกา ที่แผดจ้าร้อนแรง ซึ่งอธิบายอะไรต่อมิอะไรได้ชัดเจนทั้งหมด ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจ ที่พลังการเปลี่ยนแปลงทางสังคมในประวัติ ศาสตร์การเมืองไทยหลายหน มาจากพลังของคนรุ่นใหม่วัยนี้แหละ
จะว่าไปแล้วการเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 ต้องได้รับการบันทึกเอาไว้ว่า เป็นการแห่กันเข้าร่วมผลักดันการเมืองไทยให้เปลี่ยนแปลงไปอีกระดับ
ด้วยพลังคนรุ่นใหม่ 6-7 ล้านเสียง!
ทำให้มีพรรคการเมืองเกิดใหม่ แต่ไม่ได้มาด้วยการใช้พลังดูด ไม่ได้มุ่งเอาส.ส.หน้าเก่ามาเพื่อหวังผลให้ได้ เลือกตั้งอย่างเดียว
แต่มาแบบการเมืองใหม่ ไม่มีอดีตนักการเมือง ไม่มีเงินทองแจกจ่าย ไม่มีนายทุนใหญ่ๆ มาลงขัน ชูความคิดอุดมการณ์เปลี่ยนแปลงการเมืองไทย ที่จับต้องได้
กลายเป็นพรรคตรงใจตรงความใฝ่ฝันของคนรุ่นใหม่ ทำให้ได้รับเลือกเข้ามาล้นหลาม
เป็นเรื่องที่ควรศึกษาพลังคนหนุ่มสาวในปรากฏการณ์เลือกตั้งครั้งนี้กันให้ถ่องแท้
จะได้ไม่ไปคิดแบบตื้นๆ ว่า เด็กพวกนี้โดนหลอก
เด็กๆ ยังอ่อนหัด โดนพวกความคิดอันตรายครอบงำ ล้างสมอง
ก่อนจะเกิด 14 ตุลาคม 2516 ก็มีพวกผู้ใหญ่ล้าหลัง คิดกับนักเรียนนิสิตนักศึกษาในช่วงนั้น แบบนี้แหละ!?
แล้วผลเป็นไง
คนในวัยรุ่นวัยเรียนทั้งนั้น ที่นำประชาชนทั้งประเทศลุกขึ้นมาล้มรัฐบาลเผด็จการทหาร!
เด็กในยุคนั้น เรียนรู้เท่าทันรัฐบาลทหารว่า ไม่ยอม คายอำนาจเพราะอะไร
รู้ถึงสังคมประชาธิปไตยในประเทศอื่นๆ ว่าทำให้บ้านเมืองเจริญก้าวหน้าได้เช่นไร
ถ้าไม่มีคนวัยหนุ่มสาว ที่นำไปสู่ 14 ตุลาคม 2516 เราก็คงไม่สามารถเบิกม่านประชาธิปไตยในวันนั้นได้
พลังคนหนุ่มสาวเมื่อพฤษภาคม 2535 ก็เช่นกัน โค่นล้มรัฐบาลทหารรสช. ได้สำเร็จ!
นำไปสู่การผลักดันรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยของประชาชน
รวมทั้งคนหนุ่มสาวในปี 2562 สร้างความก้าวหน้าของการเมืองไทย ผ่านการแห่ออกไปเลือกตั้ง และเลือกพรรคการเมืองที่พัฒนาก้าวหน้าที่สุด
แล้ววันนี้พลังคนรุ่นใหม่คงกำลังจับตามองอย่างไม่กะพริบ กับความไม่ชอบมาพากลหลายอย่างของการเมืองไทย!?!
แถมเราอยู่ในยุคดิจิตอลที่การเคลื่อนไหวต่อต้านอำนาจไม่ชอบธรรม มีหลากหลายช่องทาง ก่อกระแสคลื่นได้รุนแรงอย่างมากมาย
อาทิตย์ยามเช้า 8-9 นาฬิการ้อนแรงขนาดไหน อย่าได้ประมาทเป็นอันขาด!
วงค์ ตาวัน