ตำนานพรรคเทพ–มาร กับการเมืองยุคปัจจุบัน
คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
โดย วงค์ ตาวัน
ตำนานพรรคเทพ–มาร – ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า ความเคลื่อนไหวปลุกพลังส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชน ให้รวมตัวกันเพื่อปิดสวิตช์ส.ว.ซึ่งมาจากการแต่งตั้งโดยคสช. ในวาระการโหวตนายกรัฐมนตรีนั้น จะประสบความสำเร็จหรือไม่
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แห่งอนาคตใหม่ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในภารกิจนี้ จะเดินหน้าเจรจาได้ผลขนาดไหน ยัง ไม่อาจตอบได้
ที่น่าสนใจคือกระแสสังคม จะตื่นตัวในประเด็นนี้ จะเห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวของพรรคฝ่ายประชา ธิปไตยและนายธนาธรหรือไม่!?
ถ้าหากประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วย และเกิดกระแสสังคมขนาดใหญ่ เรียกร้องให้ส.ส.จับมือกันหยุดอำนาจ ส.ว.ในการโหวตนายกฯ
ถ้าเป็นเช่นนี้จริงก็เป็นเรื่องน่าคิด ทำให้นึกถึงการเมืองในยุคคณะทหารรสช. ซึ่งเกิดการรวมตัวของพรรคการเมืองเพื่อสนับสนุนหัวหน้าคณะรัฐประหารให้เป็นนายกรัฐมนตรี
แต่กระแสสังคมส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย กลายเป็นตำนานพรรคเทพและพรรคมาร ที่หลายคนคงจดจำกันได้ดี!
ยังไม่รู้ว่ากระแสสังคมในยุคนี้ จะเป็นเหมือนในยุค ปี 2535 หรือไม่
ไม่ได้หมายความถึงการนองเลือดพฤษภาทมิฬ
แต่หมายถึงกระแสต้านพรรคการเมือง ที่เกิดประเด็นพรรคเทพกับพรรคมารขึ้นมาในขณะนั้น
กลายเป็นกระแสจากประชาชนที่กดดันพรรคการเมืองจนแทบกินไม่ได้นอนไม่หลับไปตามๆ กัน!!
เป็นเรื่องน่าสนใจติดตามว่า กระแสสังคมในยุคนี้จะไปถึงขนาดนั้นหรือไม่
จากพรรคเทพ–พรรคมาร สู่ประเด็นพรรคฝ่ายหยุดส.ว.กับพรรคฝ่ายไปร่วมกับส.ว.
หมายถึงจะได้นายกฯที่มาจากบัญชีของพรรคการเมืองที่ร่วมลงสนามเลือกตั้งอย่างเต็มตัว กับนายกฯที่ได้รับเชิญให้มาอยู่ในบัญชี โดยมาแบบลอยๆ
เป็นประเด็นที่จะต้องติดตามกันต่อไป
แต่อันที่จริงระบบการเมืองไทยและทั่วโลก มีวุฒิสภาควบคู่กับสภาผู้แทนฯอย่างเป็นปกติ ซึ่งในบ้านเราก็มีส.ว. มายาวนาน
แต่ความพิเศษมาอยู่ที่บทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ให้ส.ว.มีวาระถึง 5 ปี และร่วมโหวตนายกรัฐมนตรีได้ด้วย!
การให้ส.ว.โหวตนายกฯนี่แหละ ที่กลายเป็นประเด็น ร้อนแรง
จุดชนวนให้เกิดข้อถกเถียง
ระหว่างอำนาจของส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชน กับอำนาจส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้ง!?
ทั้งหมดนี้ต้องรอดูการเคลื่อนไหวของนายธนาธรและพรรคฝ่ายประชาธิปไตย ว่าจะลุล่วงหรือไม่
ไปจนถึงอารมณ์ความรู้สึกของสังคมที่จะเกิดกระแสใหญ่ร่วมกดดันด้วยหรือไม่!!