กระแสธนาธรกับการจับขั้วรัฐบาล
คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
โดย…วงค์ ตาวัน
กระแสธนาธรกับการจับขั้วรัฐบาล – เหตุการณ์นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ลุกขึ้นบอกลา กลางที่ประชุมสภาผู้แทนฯ หลังเลขาธิการสภาอ่านคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญที่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ โดย ลุกขึ้นกล่าวอำลาผ่านไมโครโฟน แม้จะมีเสียงประท้วงไม่พอใจจากส.ส.ขั้วตรงข้ามดังอื้ออึง
แต่ก็สามารถพูดจาปราศรัยได้ลุล่วง ตามด้วยส.ส. ฟาก 7 พรรคที่ลุกขึ้นยืนพร้อมกับปรบมือให้เกียรติ และชูสามนิ้วกันว่อน
ภาพนี้ผ่านการถ่ายทอดสดทางทีวีไปยังประชาชนทั่วประเทศ
แม้จะมีคำท้วงติงว่า นี่ไม่ใช่โรงละคร
แต่ในทางการเมืองแล้ว ต้องถือว่า ภาพนี้ส่งผลอะไรมากมาย
แสดงให้เห็นถึงการยอมรับยกย่องและเสียดาย ที่นายธนาธรไม่สามารถทำหน้าที่ในสภาได้!
จากนั้นในวันถัดมา ผลการเลือกตั้งซ่อมส.ส. เขต 8 เชียงใหม่ ที่พรรคอนาคตใหม่ได้รับชัยชนะ ถล่มทลาย
ทิ้งห่างพรรคพลังประชารัฐอย่างลิบลิ่ว
นับเป็นอีกปรากฏการณ์ที่มีความหมายในทางการเมือง
เกิดเสียงวิจารณ์ตามมาว่า น่าจะเป็นการแสดงออกของประชาชนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งอย่าง เข้มข้นจริงจัง
หลังจากกระบวนการของกกต.ในการสอบสวนเอาผิดนายธนาธร จนลงเอยต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่
บ้างก็มองว่า เป็นการสวนกระแส ขณะที่พรรคพลังประชารัฐกำลังประสบความสำเร็จในการ จับขั้วตั้งรัฐบาล!?!
โดยจับมือกันได้อย่างแนบแน่นกับพรรคประชาธิปัตย์และภูมิใจไทย จนสามารถยึดเก้าอี้ประธานสภา รองประธาน 1 และ 2 ได้เรียบ
กระแสสังคมในกรณีธนาธร จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจติดตาม เพราะอีกไม่กี่วันจะมีการโหวตเลือกนายกฯ
โดยการจับขั้วพลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทยและพรรคเล็กพรรคน้อยรวม 20 พรรค จะร่วมกันยกมือให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ
โดยมีเสียง 250 ส.ว.เข้าร่วมโหวตชี้ขาดด้วย!
ถึงเวลานั้น เสียงเรียกร้องของนายธนาธร ที่ให้ส.ส.ยึดมั่นในหลักประชาธิปไตย ให้ฝ่ายที่มาจาก การเลือกตั้งจับมือกันปิดสวิตช์ส.ว.
คงยิ่งดังกระหึ่ม แต่ก็คงไม่มีผลในทางปฏิบัติ
เพราะส.ว.คงได้แสดงพลังร่วมกับ 20 พรรค จนสำเร็จลุล่วงแน่นอน
แต่ผลต่อประชาชนที่เฝ้ากระบวนการนี้อยู่ จะพากันมองอย่างไร
ผู้มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชนทั้งหลายต้องตระหนักกันไว้ด้วย!