กว่าจะได้รัฐบาล สงสารเศรษฐกิจไทย

คอลัมน์ ชกไม่มีมุม

กว่าจะได้รัฐบาล สงสารเศรษฐกิจไทย – เศรษฐกิจที่ไม่ดีมาหลายปีแล้ว ทำให้คาดหวังกันมากว่า หลังเลือกตั้งเสร็จ ประเทศเข้าสู่ความเป็นประชาธิปไตย ได้รัฐบาลใหม่ที่มาตามกติกาเป็นที่ยอมรับในสากล อะไรต่อมิอะไรคงดีขึ้น แต่มาถึงตอนนี้ เริ่มชักไม่แน่ใจอะไรกันอีกแล้ว

เพราะเป็นแค่ประชาธิปไตยครึ่งๆ กลางๆ ขนาดการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ยังมีเสียงจากฝ่ายแต่งตั้งถึง 250 เสียง ที่เข้ามาร่วมมีอำนาจชี้ขาด เบียดแทรกกับอำนาจของฝ่ายเลือกตั้งจากประชาชน

ตอนนี้เลยกลายเป็นประเด็นดังระดับโลก เมื่อสื่อมวลชนยักษ์ใหญ่สหรัฐ ระบุว่าเป็นแค่ประชาธิปไตยจอมปลอม

ขณะเดียวกัน ที่กระทบต่อเศรษฐกิจการค้าอย่างเต็มๆอีกประการ ก็คือความล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาล

แม้จะมีนายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่งต่ออีกสมัย

แม้จะมีพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว ซึ่งผสมกันอุตลุดมากถึง 19 พรรค

แต่ลงเอยก็เจรจากันไม่จบ อันที่จริงก็จบไปแล้ว แต่หลังจากนั้นภายในพรรคแกนนำรัฐบาลเอง ที่ไม่จบ!

จึงกลายเป็นการฟอร์มรัฐบาลที่ยืดเยื้อยาวนานที่สุด

จนถึงวันนี้ มีแนวโน้มสูงมากว่า คงต้องยื้อต่อไปจนกว่าจะผ่านการประชุมอาเซียนซัมมิตระหว่าง 20-23 มิถุนายนนี้ไปเสียก่อน

เท่ากับว่า รัฐบาลใหม่ต้องใช้เวลาจัดตั้งนับจากวันเลือกตั้งมา ก็ 3 เดือนเต็ม!

โดยเลือกตั้งกันไปเมื่อ 24 มีนาคม กว่าจะประชุมอาเซียนเสร็จ ถึงวันที่ 24 มิถุนายนก็คือครบ 3 เดือน

ยืดเยื้อยาวนานและอลหม่านเช่นนี้ จะไม่กระทบเศรษฐกิจการค้าได้อย่างไร!?

ความที่จัดแบ่งเก้าอี้กันล่าช้า กว่าจะผ่านขั้นตอนต่างๆ จนถึงวันแถลงนโยบายต่อสภา เพื่อเริ่มการทำงานในฐานะรัฐบาลใหม่ การไปร่วมลงนามในที่ประชุมอาเซียนก็จะเกิดปัญหาได้อีก

ดังนั้น จึงเป็นเหตุให้การตั้งรัฐบาลใหม่ต้องลากยาว

ที่น่าคิดต่อมา กว่าจะมีรัฐบาลหลังเลือกตั้งมาขับเคลื่อนประเทศ เต็มไปด้วยความทุลักทุเลแล้ว

ยังต้องสงสัยกันต่อไปว่า แล้วจะอยู่ได้ยาวนานแค่ไหน!?

เสียงรัฐบาล 19 พรรค เกินครึ่งสภาผู้แทนฯ แค่ไม่กี่เสียง

แถม 7 พรรคฝ่ายค้าน ก็มีทีท่าเหนียวแน่น แถมเตรียมกระบวนการถล่มรัฐบาลในสภาเอาไว้แล้วอย่างเต็มเหนี่ยว

เพราะถือว่าเสียงปริ่มน้ำ โค่นได้ง่ายดาย

แล้วพูดกันตรงๆ ตอนนี้ชาวบ้านจำนวนมากก็ตั้งตารอการยุบสภาเลือกตั้งใหม่กันแล้ว

ปีหน้าอะไรต่อมิอะไรคงดีขึ้น!

โดย…วงค์ ตาวัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน