อย่างกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อก้าวพลาดไปผัดใบเหลียงใส่ไข่ ชื่นมื่นอยู่กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ปักษ์ใต้ ทั้งที่อีสานกำลังจมมิด

แทนที่จะพลิกเกมแก้สถานการณ์ให้กลับมายืนเป็นผู้นำในการแก้น้ำท่วมอย่างฉับพลันทันที

กลับแสดงความหงุดหงิด ไปพูดจาพาดพิงถึงอดีต นายกฯ ที่หนีไปอยู่ต่างประเทศ

เท่านั้นแหละ ชาวโซเชี่ยลก็เลยฟื้นอดีตของนายทักษิณ ชินวัตร กับภาวะผู้นำ ความเป็นนักบริหารมืออาชีพ ในการกู้วิกฤตสึนามิขึ้นมาเปรียบเทียบ

ยิ่งทำให้พล.อ.ประยุทธ์เพลี่ยงพล้ำ กลับกัน ยิ่งส่งให้ภาพของทักษิณ กลับมาดูโดดเด่นในความรู้สึกของประชาชน!

หรือในขณะที่สถานการณ์ด้านการแก้น้ำท่วมของ นายกฯ ยังดูไม่ค่อยดีอยู่นั้น พอเดินทางไปถึงพื้นที่อุบลฯ แทนที่จะเร่งโชว์ฝีมือ

กลับไปเปิดศึก เรียกหาส.ส.พรรคเพื่อไทยว่าทำไมไม่มาต้อนรับ ทำไมไม่มาช่วยกันทำงานแก้ปัญหา มัวแต่เลื่อยขานายกฯ

ส่งผลให้เกิดการตอบโต้อย่างหนักจากฝ่ายเพื่อไทย

โดยเฉพาะการที่นายสมคิด เชื้อคง ใช้คำว่า ไม่มีเวลาไปเลียแข้งเลียขานายกฯ

เรียกเสียงฮือฮาจากประชาชนคนดูได้มาก!

ส่วนหนึ่งเพราะพล.อ.ประยุทธ์ เป็นรัฐบาล ขณะที่เพื่อไทยเป็นฝ่ายค้าน

ในทางการเมืองแล้วต่างก็ต้องแข่งขันกัน ช่วงชิงการยอมรับจากประชาชน

แล้วถ้าหาก พล.อ.ประยุทธ์ มีความโดดเด่น เป็นผู้นำที่เก่งกาจในการแก้วิกฤตน้ำท่วม นั่นจึงจะมีสถานะที่สามารถถามหาพรรคฝ่ายค้านให้มาต้อนรับ ให้มาร่วมกันทำงานได้

แต่พล.อ.ประยุทธ์ ก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจว่า ตนเองก็ยังหงุดหงิดที่ถูกวิจารณ์จนหูอื้ออยู่แท้ๆ กลับไปแสดงความไม่พอใจที่ไม่เห็นเพื่อไทยมาต้อนรับ จึงทำให้ต้องโดนตอบโต้กลับอย่างหนัก

แถมการใช้คำว่า ไม่มีเวลาไปเลียแข้งเลียขา นายกฯ นั้น ถูกอกถูกใจประชาชนคนฟังอย่างยิ่ง!

คล้ายกับเมื่อครั้งนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.เพื่อไทย อภิปรายปะทะกับฝ่ายรัฐบาลในสภา

แล้วในนาทีอันเดือดนั้น นายยุทธพงศ์ ตอบโต้ว่า ผมมาจากการเลือกตั้ง ไม่เหมือนคนที่เลียรองเท้าทหารมา

คำว่าเลียรองเท้าทหาร จึงฮอตฮิตไปในทันที

เอาไปผลิตเป็นเสื้อยืดลายเลียรองเท้าทหาร ก็ขายดิบขายดี จนเอามาเป็นเงินสมทบช่วยน้ำท่วมได้อีกด้วย

จะเลียแข้งเลียขาหรือเลียรองเท้า เอามาใช้ให้ถูกจังหวะก็จะถูกอกถูกใจประชาชนเช่นนี้เอง!

คอลัมน์ ชกไม่มีมุม โดย วงค์ ตาวัน