จากไม่เลียรองเท้าทหาร ถึงไม่เลียบู๊ตทหาร
คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
จากไม่เลียรองเท้าทหาร ถึงไม่เลียบู๊ตทหาร – ไม่น่าแปลกใจ ที่หลังถูกคำตัดสินให้พ้นสภาพจากการเป็นส.ส.แล้ว นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ก็ยังคงทำกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างไม่ท้อถอย เพราะยังอยู่ท่ามกลางการต้อนรับของประชาชนที่ให้การสนับสนุนนายธนาธรและพรรคอนาคตใหม่ ที่ยังมีความเชื่อมั่นไม่แปรเปลี่ยน
พูดง่ายๆ ว่า นอกจากฝ่ายที่เกลียดชังและหวาดผวานายธนาธรแล้ว
นอกนั้น ไม่มีใครที่เชื่อว่า นายธนาธรคือคนที่มีพฤติกรรมเลวร้าย หมดสิ้นซึ่งความศรัทธาในทางการเมืองอีกแล้ว
ไม่มีเลยแม้แต่น้อยนิด
สภาพอย่างนี้แหละ ที่จะกลายเป็นปัญหาให้กับกลุ่ม ผู้กุมอำนาจเสียเอง
อีกฝ่ายกลายเป็นผู้ได้รับความเห็นใจและยิ่งเพิ่มแรงสนับสนุนมากขึ้น!
ขณะเดียวกันคำกล่าวของนายธนาธรในวงเสวนา เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เหมือนจะตอกย้ำสภาพการเมืองไทยในวันนี้ว่า บ้านเมืองเราอยู่ในการเมืองแบบไหน
โดยยืนยันว่า ชีวิตอาจต้องไปจบในคุกตะราง อาจมีจุดจบไม่สวย
แต่ก็ภูมิใจที่ได้ยืนหยัดต่อสู้ในสิ่งที่ถูกต้อง
แม้สุดท้ายอาจจบไม่สวย แต่ผมจะไม่เลียบู๊ตทหารแน่ๆ!!
เหมือนกับที่นายธนาธรเคยตั้งคำถามว่า ความผิดของตนเองคืออะไร ไม่ใช่คดีหุ้น ไม่ใช่การให้เงินพรรคกู้
แต่ความผิดก็คือ ต่อต้านการสืบทอดอำนาจของคสช.
กระตุ้นให้ทั่วทั้งสังคมไทยตระหนักว่าความจริงในวันนี้คืออะไร
คำกล่าวที่ว่าเลียบู๊ตทหาร เลียรองเท้าทหาร อันที่จริงก็เป็นคำเก่าๆ ที่ใช้กันมานาน
แต่เมื่อเอามาพูดถูกที่ถูกเวลา ก็กลายเป็นคำฮือฮา เพราะกระทบอารมณ์ความรู้สึกของประชาชน ตรงกับสิ่งที่เผชิญอยู่จริง เพียงแต่อาจจะกลมกลืนแอบแฝงอำพรางจนผู้คนหลงลืมไปชั่วขณะ
เหมือนกับที่ไม่นานมานี้ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ปะทะคารมกับอีกฝ่ายอย่างดุเดือด ในสภา
แล้วนายยุทธพงศ์ก็ใช้คำตอบโต้ที่ว่า “ผมมาจากการเลือกตั้ง ไม่ได้เลียรองเท้าทหารเข้ามา”
คำพูดนี้ส่งผลสะเทือนในทางการเมืองอย่างกว้างขวาง เอาไปเป็นลายพิมพ์เสื้อยืดออกขาย ก็ขายดิบขายดี
นายยุทธพงศ์กล่าวถึงพวก “เลียรองเท้าทหาร” ขณะที่นายธนาธรยืนยันว่า ต่อให้ต้องติดคุก ก็จะ “ไม่เลียบู๊ตทหาร”
บอกให้ทั่วทั้งสังคมได้เข้าใจกระจ่างชัดมากขึ้น
การเมืองไทยวันนี้อยู่ในสภาพเช่นไร!?!