น้ำท่วมแล้วก็แห้งแล้ง สู่ศูนย์รับมือภัยแล้ง
คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
วงค์ ตาวัน
ไม่น่าเชื่อเลยว่า เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา บ้านเมืองเราได้ประสบภัยธรรมชาติ ฝนตกหนักส่งผลให้เกิดน้ำท่วมใหญ่หลายจังหวัดในภาคอีสานและภาคเหนือ โดยเฉพาะที่อุบลราชธานี เรียกได้ว่าเป็นอุทกภัยครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปี
แต่ผ่านมาแค่ 2-3 เดือน สถานการณ์พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ ตอนนี้ทั่วทั้งประเทศกำลังแห้งแล้ง!?
ทอดสายตาไปตามแม่น้ำลำคลอง พบแต่ความแห้งเหือด
เริ่มมีเสียงร้องระงมจากเกษตรกร และประชาชนที่ต้องใช้น้ำตามแหล่งธรรมชาติ
ก็ยังดีเมื่อเห็นข่าวกรมทรัพยากรน้ำบาดาล โดยนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีของกรมนี้ ได้สั่งจัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์ภัยแล้งขึ้นมาแล้ว!
ถือว่าเป็นการขยับตัวของหน่วยราชการ รับมือกับสถานการณ์ได้ทันท่วงที
โดยเป็นคำสั่งลงวันที่ 26 พฤศจิกายน ให้จัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์ภัยแล้ง 2562/2563 กรมทรัพยากรน้ำบาดาล
พร้อมกับอธิบายว่า ได้เกิดสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วงในฤดูฝน ตั้งแต่เมื่อเดือนธันวาคมปี 2561 มาจนถึงกลางเดือนสิงหาคม 2562 ประกอบกับในช่วงเดือนสิงหาคมถึงกันยายน 2562 มีปริมาณฝนตกน้อยกว่าปกติ ส่งผลให้บางพื้นที่มีน้ำไม่เพียงพอสำหรับการอุปโภค บริโภค และการเกษตร
เพื่อให้สามารถช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งในปี 2562/2563 ได้อย่างรวดเร็วเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ และมีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ จึงให้จัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์ภัยแล้งขึ้นมาดังกล่าว
โดยประชาชนสามารถแจ้งขอความช่วยเหลือได้ทันที!
ทางหมายเลขโทรศัพท์ 0-2666-7000 กด 1 หรือหมายเลข 09-5949-7000 ตั้งแต่เวลา 08.30-22.00 น. ทุกวัน จนกว่าจะสิ้นสุดสถานการณ์ภัยแล้ง
รวมทั้งแจ้งผ่านระบบขอความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งออนไลน์ 1310.dgr.go.th ก็ได้อีกทาง
นอกจากนี้อธิบดีศักดิ์ดา ยังประสานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เพื่อให้ทราบถึงการจัดตั้งศูนย์นี้ เพื่อประสานงานช่วยเหลือประชาชนในทุกพื้นที่
เห็นได้ว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในยุครัฐมนตรีวราวุธ ศิลปอาชา เคลื่อนไหว คึกคักหลายด้าน ตามประสาคนหนุ่มไฟแรง
กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ในสังกัดกระทรวงนี้ ในยุคอธิบดีศักดิ์ดา ถือว่าทำงานอย่างทันสถานการณ์
แต่ในด้านหนึ่งก็ต้องตำหนิติเตียนคณะรัฐบาลในประสิทธิภาพจัดการน้ำ
เมื่อ 2-3 เดือนก่อน น้ำท่วมจมเมือง มาตอนนี้ น้ำหายไปไหนหมด จนแห้งแล้ง!?
เอาเป็นว่าเมื่อกรมน้ำบาดาลและกระทรวงทรัพยากรฯ เขาระดมลงมือแก้ปัญหาให้ประชาชน
ครม.ก็ควรจะให้การสนับสนุนทุกด้าน เพิ่มงบประมาณ เครื่องไม้เครื่องมือ
เพราะวิกฤตแล้ง พืชผลเกษตรเสียหาย
จะกลายเป็นเรื่องร้อนต่อรัฐบาลถ้าแก้ไขได้ไม่ทั่วถึงเพียงพอ!