แก้วิกฤตภัยหนาว ด้วยการต้มเสื้อกันหนาว
คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
วงค์ ตาวัน
แก้วิกฤตภัยหนาว – ฤดูหนาวในบ้านเมืองเรา ไม่เคยหนาวจริงจังมายาวนานแล้ว จนกระทั่งมาปีล่าสุดนี้เอง ที่ถือว่าเย็นยะเยือกแท้จริง โดยตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน หลายพื้นที่ในชนบทประสบภาวะอากาศหนาวรุนแรง ต่อเนื่องมาจนเดือนธันวาคมนี้
ขนาดคนกรุงเทพฯ ก็ยังตื่นเต้นว่า อากาศเย็นมากๆ ในรอบหลายปี
แต่สำหรับคนในหลายจังหวัด หนาวเหน็บกว่าใน กทม.มาก อุณหภูมิเหลือตัวเลขหลักเดียว และตัวเลขอากาศที่ลดต่ำนั้น สำหรับในภูมิภาคจะกินเวลายาวนานมากกว่าในเมืองหลวง
คนมีสตางค์ก็สนุกสนานกับสภาพอากาศแบบนี้ ได้งัดเสื้อกันหนาวกันออกมาอวด
หรือได้โอกาสปรับตัวเลขแอร์ในบ้านให้เย็นน้อยลง
ขณะที่คนในชนบท บ้านเรือนโย้เย้ เต็มไปด้วยช่องอากาศให้ลมหนาวสอดแทรกเข้าไป จนแทบนอนกันไม่หลับ!
อย่าว่าแต่เสื้อหนาวสวยๆ เลย แค่เสื้อหนาวเก่าๆ ผ้าห่มที่ห่อหุ้มตัวในทุกค่ำคืนก็แทบจะไม่พอ
จนมีข่าวคนไทยหนาวตายในหลายพื้นที่หลายศพแล้ว
สภาพความหนาวเหน็บสำหรับคนมีสตางค์กับคนยากไร้มันแตกต่างกันมาก
แต่ที่น่าสงสัยก็คือ ไม่เห็นมีหน่วยราชการไหนที่สนใจความเป็นอยู่ของชาวบ้านในสภาพอากาศรุนแรงเลวร้ายเช่นนี้สักเท่าไรนัก!?
เคยมีคนเขียนจดหมายมาสอบถามว่า เข้าฤดูหนาวเมื่อไร เห็นแต่เอกชนที่มีโครงการนำผ้าห่มไปช่วยประชาชน
ไม่เคยเห็นรัฐบาลมีโครงการแบบนี้!?
คำตอบก็คือ ภาครัฐมีการตั้งเกณฑ์เอาไว้สูงมาก ในการกำหนดสภาพอากาศหนาวที่ต้องจัดงบประมาณไปช่วยเหลือ
วันก่อนผู้นำรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ถึงภาวะความหนาวในเวลานี้ว่า เป็นห่วงประชาชนในเรื่องสุขภาพ
โดยเฉพาะการซื้อเสื้อกันหนาวมือสอง อย่าลืมเอาไปต้มฆ่าเชื้อโรคด้วย
หลายคนฟังแล้วก็งง ระดับผู้นำมีวิสัยทัศน์แก้ปัญหาสภาพอากาศที่กระทบชีวิตประชาชน ด้วยการให้ต้มเสื้อกันหนาวมือสองฆ่าเชื้อ เท่านั้นหรือ!
เลยนึกถึงเสียงเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยชี้ว่า
ฉบับที่ดีไซน์เพื่อพวกเขาแบบนี้ เราก็จะได้กลุ่มคนกลุ่มเดียวผูกขาดเป็นรัฐบาลไปอีกยาวนาน
จะไม่มีโอกาสได้คนเก่งๆ เข้ามาบริหารบ้านเมือง เข้ามาแก้เศรษฐกิจ
รวมทั้งอาจจะต้องเพิ่มเติมเหตุผลที่ต้องเปลี่ยนแปลงการเมืองไทยให้ได้ว่า
จะได้รัฐบาลที่มีไอเดียแก้ภัยหนาวช่วยชาวชนบทได้มากกว่าให้เอาเสื้อกันหนาวมือสองไปต้ม!?!