กลัวคนจะมาน้อยไป โหมไฟ-วิ่งไล่ลุง
คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
วงค์ ตาวัน
กลัวคนจะมาน้อยไป โหมไฟ-วิ่งไล่ลุง – ความจริงกิจกรรมวิ่งไล่ลุงนั้น น่าจะเป็นแค่การแสดงออกแบบสนุกสนานผสมผสานเนื้อหาการเมืองเข้าไปหน่อย แค่ไม่กี่ชั่วโมงก็จบ แยกย้ายกันกลับบ้าน
คนที่มาร่วมก็ต้องแต่งตัว เสื้อยืด เสื้อกล้าม กางเกงขาสั้น แค่เสื้อผ้าก็บอกอยู่แล้วว่า จะมีแผนลับทางการเมือง เตรียมยกระดับเป็นม็อบไล่รัฐบาลได้อย่างไร!?
ใส่เสื้อกล้ามกางเกงกีฬาขาสั้นในช่วงหน้าหนาวแบบนี้ เสร็จแล้วก็คงต้องรีบกลับกันหมด
แต่ไปๆ มาๆ ผู้นำกองทัพออกมาชี้ว่า มีนัยยะแอบแฝง เป็นพร็อกซี ไครซิส!!
เท่านั้นแหละ ได้ผลมากๆ คือคนที่ไม่คิดจะมาร่วมวิ่ง ก็เลยเตรียมตัวจะมาร่วมกันยกใหญ่
พร้อมกับเห็นภาพใบหน้า เด็กหนุ่มใสๆ นายธนวัฒน์ วงค์ไชย แกนนำจัดกิจกรรมนี้ขึ้นมาพร้อมๆ กัน
เด็กหนุ่มนิสิตจุฬาฯ นักกิจกรรม อดีตประธานนิสิต เคยร่วมเคลื่อนไหวการเมืองในยุคคสช. ในนามกลุ่มอยากเลือกตั้ง
เส้นทางความเป็นมา ไม่ลึกลับซับซ้อนอะไร
ที่ผู้นำทหารผู้กุมอำนาจกองทัพพูดถึงพร็อกซี ไครซิสนั้น เชื่อว่าคนทั่วไปค้นหาความจริงได้ไม่ยากเลย
ในยุคที่ทุกคนเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายๆ และตรวจสอบข้อมูลความจริง-เท็จได้ไม่ยาก ไม่มีใครจะมาล้างสมองใครได้!!
ทฤษฎีโฆษณาชวนเชื่อโจมตีคอมมิวนิสต์ยุคโบราณ ว่ามีการล้างสมองนั้น เชยมากเกินไปแล้ว
ดังนั้น วิ่งไล่ลุง จะมีการเมืองชักใย ตามที่เขากล่าวหาหรือไม่ ประชาชนทั่วไปที่มีสติ คงหาคำตอบได้ไม่ยาก
คำตอบนั้นจะนำมาสู่จำนวนคนที่ร่วมวิ่งในวันที่ 12 มกราคม 2563 อีกด้วย
จากที่เปิดให้ลงทะเบียนเพียงไม่กี่อึดใจ ก็เต็มล้น 8 พันคนจนต้องปิดลงทะเบียนล็อตแรกไปก่อน จนน่าคิดว่าถึงวันจริงยอดคนร่วมจะทะลุไปขนาดไหน
ได้ยินมาว่า หน่วยงานด้านความมั่นคง เริ่มหนักใจ นับตั้งแต่มีแฟลชม็อบที่สกายวอล์ก แล้วผู้คนแห่ออกร่วมจนล้นพื้นที่
เกรงกันว่าถ้าวิ่งไล่ลุงมีเกิน 2 หมื่นคน จะต้องประเมินสถานการณ์ความมั่นคงของรัฐบาลกันอลหม่าน!
นี่กระมัง เลยออกมาพาดพิงกิจกรรมวิ่ง ว่ามีการเมืองอยู่เบื้องหลัง นั่นเพราะเริ่มกังวลว่า คนเริ่มออกมาส่งเสียงกันโดยตรง
จะว่าไปแล้ว สภาพการเมืองที่ฟากรัฐบาลทำอย่างเกินงามสารพัดเรื่อง เพื่อให้มีเสียงเพิ่มในสภา แล้วเล่นงานพรรคตรงข้ามแบบขัดหูขัดตาคนดู ไปจนถึงสภาพเศรษฐกิจปากท้อง
ไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาลอยู่แล้ว
พอมีกิจกรรมวิ่งก็เลยระแวง แล้วเผลอไปเติมไฟใส่อีก
ราวกับกลัวคนจะมาร่วมวิ่งไล่ลุงน้อยไป!?!
