ผลโพลนายกฯ
สะท้อนเสียงบ่นเบื่อ
คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
โดย…วงค์ ตาวัน
ผลโพลนายกฯ – ข่าวใหญ่ในแวดวงการเมืองช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ คือ ผลโพลสำรวจความคิดเห็นประชาชนว่าใครควรเป็นนายกรัฐมนตรี
ผลออกที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้รับคะแนนนิยมสูงสุด!
โดยนำห่างพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ คนปัจจุบันค่อนข้างมาก
แถมพรรคการเมืองที่ประชาชนสนับสนุน อันดับ 1 คืออนาคตใหม่ อันดับ 2 เพื่อไทย โดยพลังประชารัฐ เป็นอันดับ 3
ก็ไม่น่าแปลกที่บรรดาคนใกล้ชิดพล.อ.ประยุทธ์ และชาวพรรคพลังประชารัฐ จะเดือดร้อนกับโพลนี้มาก ดาหน้าออกมาโต้
เช่น ตำหนิโพลว่า สำรวจไม่กว้างพอ ยืนยันว่าคน ส่วนใหญ่ยังหนุนพล.อ.ประยุทธ์
แต่จริงๆ แล้วคนส่วนใหญ่ คงไม่คิดเช่นนั้นกระมัง!!
เพราะถ้าหากดูเหตุผลในโพลที่อยากให้นายธนาธรเป็นนายกฯ คือต้องการให้คนรุ่นใหม่มาบริหารบ้านเมือง
ระบุด้วยว่า เชื่อว่าจะมีความคิดในการพัฒนาประเทศและแก้เศรษฐกิจได้ดี
นี่แหละเป็นเหตุผลตามหลักธรรมชาติ สอดรับกับอารมณ์ความรู้สึกของประชาชนจำนวนไม่น้อยเลย ในสภาพความเป็นจริงในวันนี้
เพราะพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ มา 5 ปีกว่าแล้ว เป็นนายทหารที่เข้าสู่อำนาจด้วยการรัฐประหาร ซึ่งไม่ได้มาจากชาวบ้าน
แล้วความเจริญก้าวหน้าของประเทศ สภาพเศรษฐกิจ ปากท้องชาวบ้าน เป็นอย่างไร!?
พล.อ.ประยุทธ์มีวิสัยทัศน์ในการแก้ปัญหาต่างๆ อย่างไร ปลูกหมามุ่ย เลี้ยงปลาตอนน้ำท่วม ห่วงประชาชนในฤดูหนาวด้วยการให้ต้มเสื้อกันหนาวมือสองก่อนใส่
เทียบกับอดีตนายกฯ ที่หนีไปต่างประเทศได้หรือไม่
เทียบกับนายธนาธร ได้รึป่าว!?!
แล้วข่าวใหญ่ระดับพาดหัวหนังสือพิมพ์รายวันแทบทุกฉบับอีกข่าว ในช่วงท้ายปีก่อน คือ เหตุการณ์พล.อ.ประยุทธ์ เจอชาวบ้านบ่นเบื่อนายกฯ ต่อหน้า กลางสถานีขนส่งหมอชิต
กล้าแสดงออกต่อหน้ากันเลย ย่อมแปลว่าเบื่อจริงๆ
นี่คือความจริงในโลกประชาธิปไตย เมื่อบริหารประเทศมา 5-6 ปี ถ้าไม่ดีจริง คนย่อมเบื่อ
รวมทั้งต้องการคนคิดใหม่ คนมีวิสัยทัศน์แหลมคม
แล้วเลิกอ้างประเด็นนี้ได้แล้ว ที่ว่าถ้าอยากได้ความสงบต้องจบที่ประยุทธ์
ประเทศไม่พัฒนา ปากท้องหิวโหย เช่นนี้ ประชาชนจึงต้องการคนรุ่นใหม่และการเปลี่ยน แปลงใหม่ๆมากกว่า!