ชกไม่มีมุม

วงค์ ตาวัน

การปลุกเร้าให้คนไทยเกลียดชังกันถึงขั้น “ไม่เห็นคุณค่าความเป็นมนุษย์” สามารถเอาผ้ามัดคอนักศึกษาแล้วลากไปกับสนามหญ้า ลากมาทุบตีกลางถนน เอาไปเผากับยางรถยนต์ เอาลิ่มตอกใส่ร่าง เอาไปแขวนคอกับต้นไม้แล้วใช้เก้าอี้ฟาด เอาท่อนไม้หวดใส่

คือลักษณะพิเศษของเหตุการณ์ฆ่าหมู่ประชาชนเมื่อ 40 ปีที่แล้ว

สร้างเรื่องบิดเบือนความจริง เร้าอารมณ์ให้โกรธแค้น ปลุกมวลชนฝ่ายขวาให้เดือดแค้นเข้าล้อมที่ชุมนุมของอีกฝ่าย แล้วบุกเข้าไปทำร้าย

ก่อนที่จะใช้เจ้าหน้าที่รัฐพร้อมอาวุธจริงระดมยิงเข้าไป

เรื่องแบบนี้ทำกันมาแล้วในวันนี้เมื่อ 40 ปีที่แล้ว

โดยที่คนลงมือกระทำ ไม่มีใครถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ไม่เคยมีการติดตามตรวจสอบว่าเป็นใครมาจากไหน ทำเพราะอะไร

นั่นเป็นเพราะกลุ่มที่กุมอำนาจเป็นผู้บงการเหตุการณ์ทั้งหมด!

ดังนั้นคดีฆ่าหมู่กลางเมืองหลวงเมื่อปี 2519 จึงเงียบหายไปกับสายลม แม้แต่ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ก็ไม่มีการพูดถึง

ฝ่ายที่นำมาพูดถึงในทุกๆ ปี จึงเป็นฝ่ายผู้สูญเสีย

รวมถึงคนที่ไม่อยากให้สังคมไทยต้องเกิดเหตุน่าเศร้าสลดซ้ำรอย ที่เพียรพยายามเรียกร้องให้มีการสรุปบทเรียนให้เรียนรู้กันทั่วบ้านทั่วเมือง

นั่นเพราะในช่วงระยะหลัง ยังมีความพยายามจะทำให้คนไทยเกลียดชังกันจนถึงขั้นไม่เห็นอีกฝ่ายเป็นเพื่อนมนุษย์

ยังทำกันอยู่หลายๆหนในหลายเหตุการณ์ ขัดแย้งทางการเมือง!

ขณะที่เมื่อปี 2516 กับปี 2535 นั้น เป็นการนองเลือดที่เกิดจากการใช้เจ้าหน้าที่ติดอาวุธเข้าปราบปรามประชาชนที่ชุมนุมประท้วง

จนถึงเหตุการณ์เมื่อปี 2553 พัฒนาไปอีกขั้น มีหน่วย สไนเปอร์ซุ่มยิงอย่างเลือดเย็น

โดยมวลชนอีกฝ่ายก็ถูกปลุกเร้าจนเกลียดชังและสะใจที่คนคิดต่างล้มตายถึง 99 ศพ

พอเหตุการณ์สงบจึงร่วมกันล้างคราบเลือด ลบภาพ ความรุนแรงให้หมดสิ้นอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ความงดงามของเมืองหลวงกลับคืนมา กลบฝังรอยกระสุนและคนตายไปให้หมดสิ้น

พร้อมกับหันไปอาลัยอาวรณ์กับห้างสรรพสินค้าและโรงภาพยนตร์ที่ถูกเผา มากกว่าคน ถูกฆ่า!?!

บทกวีที่เคยคับแค้นเมื่อเห็นคนตายเมื่อ 6 ตุลาฯ กลับโหยหาโรงหนังที่มอดไหม้มากกว่า

การรำลึกและทบทวนถึง 6 ตุลาคม 2519 มีมากมายหลายแง่มุม

โดยหนึ่งในนั้นคือ อย่าเป็นเหยื่อการปลุกเร้าด้วยเรื่องที่บิดเบือนจนไม่เห็นคนคิดต่างว่าเป็นคน

โลกนี้ไม่มีทางที่คนทั้งหมดจะคิดเหมือนกัน

แต่ต้องสู้กันด้วยเหตุผลและยึดในระบบที่สันติให้อำนาจประชาชนมากที่สุด!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน