ปิดฉากอนาคตใหม่ รัฐบาลมีแต่“ได้”
คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
วงค์ ตาวัน
ปิดฉากอนาคตใหม่ รัฐบาลมีแต่“ได้” – กระแสในสังคมไทยวันนี้ เต็มไปด้วยเรื่องราวประชดประชัน อันเนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ระดับอุณหภูมิพุ่งสูงขึ้น อย่างเช่น คำถามว่า อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยบนถนนราชดำเนินนั้น มีเอาไว้แค่เป็นที่วนรถใช่หรือไม่
เพราะความเป็นประชาธิปไตยในประเทศเรา แทบไม่มีความหมายเสียแล้ว อะไรทำนองนั้น
ก็แค่มุขอำ เพียงแต่สะท้อนอารมณ์ความรู้สึกของคนไทยในวันนี้ว่ามองความเป็นไปทางการเมืองล่าสุดนี้อย่างไร!?
จะว่าไปแล้ว ภายหลังพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบไป มองการเมืองในระยะเฉพาะหน้า
จะพบว่าฝ่ายรัฐบาล “ได้”อะไรต่อมิอะไรหลายต่อ!
อันดับแรก เสียงส.ส.ในสภา ปรากฏว่าฝ่ายรัฐบาลมั่นคงขึ้นอีกเป็นกอง
ช่องว่างกับฝ่ายค้านเริ่มไม่ปริ่มน้ำอีกต่อไปแล้ว
เพราะเสียงของอนาคตใหม่หดหายไปพร้อมกับการยุบพรรคจำนวนมาก
ประการต่อมา ที่ฝ่ายรัฐบาล “ได้” คือ ตอนนี้กำลังจับจ้อง 65 ส.ส.ของอนาคตใหม่ ที่ต้องหาพรรคสังกัดใหม่ภายใน 30 วัน
อาจจะมีจำนวนหนึ่ง ซึ่งไม่มั่นคงในอุดมการณ์ขนานแท้ มีโอกาสโดนกวาดต้อนไปเข้าพรรครัฐบาลที่มีแต่ความ “อู้ฟู่” ก็เป็นไปได้
จึงไม่แค่เสียงอนาคตใหม่ปลิวหายไปจำนวนหนึ่งเพราะถูกตัดสิทธิ์ 10 ปี
แต่อาจมีการ “ช้อน” ส.ส.ที่ต้องหาสังกัดใหม่ มาเพิ่มให้ฝ่ายรัฐได้อีก!
แม้ว่าแกนนำของอนาคตใหม่ จะยังมั่นใจว่า ส่วนใหญ่ยังเป็นปึกแผ่น ยึดมั่นในแนวทางเดิม และพร้อมจะยกคณะไปเข้าสังกัดพรรคใหม่ ที่อยู่ระหว่างเตรียมการ
นั่นต้องดูกันต่อไปว่า จะโดนพรรครัฐบาล “ช้อน” ไปได้หรือไม่ และมากน้อยเพียงใด
ที่ “ได้” ประการต่อมาสำหรับฝ่ายรัฐบาล คือการตัดขุนพลอภิปรายไม่ไว้วางใจจากพรรคคนรุ่นใหม่ไปได้ อย่างช่างเหมาะเจาะได้เวลาพอดิบพอดี เพราะแกนนำหลักๆ โดนโทษ 10 ปีกันไปถ้วนหน้า อย่างเช่น ปิยบุตร แสงกนกกุล เป็นต้น
แต่กระนั้นก็ตาม ขุนพลของฝ่ายค้านที่ทำหน้าที่อภิปรายในสภาจากพรรคเพื่อไทย ก็ยังเป็นกำลังหลักอยู่!
ยังสร้างความหวั่นไหวให้กับนายกฯ และรองนายกฯ กับรัฐมนตรี 6 รายได้ไม่น้อย
ไม่เท่านั้น ยังมีการเปิดเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจนอกสภา โดย “คณะอนาคตใหม่” ที่ต้องจับตา เวทีนี้ ทั้งธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ทั้งปิยบุตร แสดงบทบาทได้เต็มที่
ดีไม่ดี เกิดมีข้อมูลฉาวระดับอินเตอร์เนชั่นแนล ที่อาจทำให้บิ๊กๆ ในรัฐบาลอยู่ไม่ได้ เป็นเรื่องที่น่าติดตามอย่างมาก
รวมๆ แล้วรัฐบาลเป็นฝ่าย “ได้” อะไรมากมายจากเหตุการณ์นี้
แต่ที่คง “ไม่อยากได้” เลยคือ สิ้นอนาคตใหม่ไป แต่ “ได้คณะอนาคตใหม่” มาแทน!!