คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
วงค์ ตาวัน
คดีวางระเบิดมักจับกุมคนร้ายได้ยาก เพราะคนที่นำมาวางในจุดเกิดเหตุนั้น ลอบวางเอาไว้แล้วเดินห่างออกไปก่อนระเบิดทำงาน เมื่อเสียงตูมสนั่นดังขึ้น ด้วยการตั้งเวลาหรือกดรีโมตก็ตาม คนร้ายจะไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว แถมหลักฐานโดยส่วนใหญ่ก็จะแหลกเป็นจุณไปพร้อมกันด้วย
คดีระเบิดร้ายแรงในกทม.ล่าสุด ที่ทำอย่างโหดเหี้ยมในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า น่าสนใจว่าจะจับกุมได้หรือไม่!?
แต่อย่างที่บอก คดีประเภทนี้มีโอกาสจับกุมได้น้อย
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะจับไม่ได้เลย
อย่างระเบิดร้ายแรงที่ศาลพระพรหม แยกราชประสงค์ เมื่อสิงหาคม 2558 เป็นทีมคนร้ายข้ามชาติ แต่ก็ไม่พ้นมือตำรวจไทย
ชุดสืบสวนนำโดยพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ขณะนั้นเป็นรองผบ.ตร. สามารถคลี่คลายคดีนี้ ได้อย่างน่าทึ่ง!
จุดสำคัญคือการไล่ภาพกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ แม้จะพลุกพล่านไปด้วยคนนับร้อยนับพัน
แต่ก็สามารถแกะรอยจนเห็นคนที่หิ้วเป้มาวางไว้จนได้ พบว่าเป็นต่างชาติลักษณะแขกขาว เมื่อประสานข้อมูล ข่าวกรองก็รู้กลุ่มว่าเป็นอุยกูร์
จากนั้นใช้เทคโนโลยีชั้นสูงติดตามจนจับกุมได้ในที่สุด
หรือคดีระเบิดระดับโลก บอสตันมาราธอน เมื่อปี 2556 ซึ่งเอฟบีไอรู้ตัวคนร้ายได้รวดเร็ว ด้วยการตรวจวงจรปิดรอบจุดเกิดเหตุ
จุดเริ่มต้นที่เห็นตัวคนร้าย มาจากการดูวงจรปิดในนาทีระเบิดดังตูมตามขึ้น ผู้คนวิ่งหนีแตกตื่น
แต่ในกล้องจะเห็นชายรายหนึ่งซึ่งเดินช้าๆ อย่างไม่ตกใจกลัวเหมือนคนทั้งหมด!
ทำให้เอฟบีไอ พุ่งความสนใจไปที่ชายรายนี้ จากนั้น ไล่กล้องตัวอื่นๆ ก็เริ่มพบว่า ตอนเดินเข้ามายังบริเวณที่ จัดงานมากัน 2 คน และสะพายเป้ทั้งคู่
พอหลังระเบิดทั้ง 2 คนที่เดินทอดน่องไม่เหมือนใคร ไม่มีเป้อยู่บนหลังแล้ว
ครั้นไล่ภาพจนเห็นจุดที่นำเป้ไปวาง ก็ตรงกับที่เกิดระเบิดจริงๆ เป็นอันชัดเจนว่าใช่แน่ และปิดคดีได้อย่างรวดเร็ว
นี่คือความสำคัญของกล้องวงจรปิด ที่ติดตั้งได้ครบถ้วน จับภาพได้ทุกตารางนิ้วของพื้นที่ต่างๆ รวมทั้งมีคุณภาพสูงได้ภาพคมชัด
เป็นทีเด็ดในการพิชิตคดีมาเยอะ และในคดีระเบิดที่จับยากเย็น ก็สำเร็จมาแล้วด้วยสิ่งนี้
สำหรับคดีระเบิดที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ยังอยู่ระหว่างการแกะรอยด้วยทุกวิถีทาง
การตรวจกล้องวงจรปิดในโรงพยาบาลก็กำลังลงมือ กันอยู่
เพียงแต่ถ้ากล้องติดไม่ครบเห็นไม่ทั่ว หรือดีบ้างเสียบ้าง ก็ไม่สามารถช่วยการสืบสวนได้
ระยะนี้ยังล่อแหลมว่าอาจจะมีอีก
ทุกหน่วยงาน ทุกห้างร้าน ทุกบ้านเรือน รีบตรวจสอบกล้องเป็นการด่วน!
