ชกไม่มีมุม
วงค์ ตาวัน
เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ซึ่งครบรอบ 40 ปีในปีนี้ ไม่เคยมีการบันทึกข้อเท็จจริงให้เป็นเรื่องเป็นราว ไม่มีข้อมูลในประวัติศาสตร์การเมืองไทย เนื่องจากไม่ต้องการให้คนไทยจดจำหรือตรวจสอบหาความจริง
เพราะมันเป็นการก่ออาชญากรรมเข่นฆ่าผู้คนกลางเมือง โดยกลุ่มที่กุมอำนาจเป็นผู้บงการ วางแผน และสร้างเรื่อง เพื่อนำไปสู่การปราบปรามสังหารหมู่
ที่มาของปฏิบัติการกวาดล้างขบวนการนักศึกษาประชาชนในวันนั้น เกิดจากความหวาดระแวงการเติบโตของฝ่ายซ้าย
ผสมเข้ากับความหวาดผวาในลัทธิคอมมิวนิสต์ ภายหลังการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองในเวียดนาม กัมพูชาและลาว
ทั้งนี้หลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ที่นักศึกษาและประชาชนได้รับชัยชนะในการล้มเผด็จการทหาร ทำให้เริ่มเข้าสู่ความเป็นประชาธิปไตย
จากนั้นนักศึกษาก็นำประชาชนร่วมต่อสู้ในทุกปัญหาสังคม จนเป็นขบวนการใหญ่
ส่งผลให้ฝ่ายขวาหรือฝ่ายอนุรักษนิยมทางการเมือง เหล่าขุนศึกขุนนาง เฝ้ามองอย่างกลัดกลุ้ม!
ทั้งยังมีทฤษฎีโดมิโน่ เชื่อว่าไทยจะกลายเป็นคอมมิวนิสต์ต่อเนื่องเป็นชาติที่ 4
จึงเกิดคำสั่งกวาดล้างฝ่ายซ้ายให้หมดสิ้นไป และกลายเป็นเหตุการณ์โหดเหี้ยมอำมหิตเมื่อ 40 ปีที่แล้ว
วิธีการสำคัญที่นำไปสู่การกวาดล้างนักศึกษาและประชาชนในวันนั้น คือ การปลุกเร้าผู้คนในสังคมไทยให้เกลียดชังอีกฝ่าย
จนถึงขั้นไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้!!
ไปจนถึงการบิดเบือนข้อเท็จจริง ตกแต่งภาพถ่าย สร้างเรื่องให้มวลชนฝ่ายขวาเข้าปิดล้อมธรรมศาสตร์ บุกเข้าไปปะทะกัน ก่อนเปิดทางให้เจ้าหน้าที่รัฐใช้อาวุธระดมยิงเข้าใส่จนตายเกลื่อน
ตัวละครสำคัญก็คือ การนำจอมพลถนอม กิตติขจร ที่โดนขับไล่ไปเมื่อ 14 ตุลาคม 2516 กลับเข้าประเทศอีกครั้งในรูปแบบสามเณร
เป็นการสร้างเงื่อนไขให้นักศึกษาประชาชนต้องชุมนุมเพื่อต่อต้าน เพราะมีหนี้ชีวิตเมื่อ 14 ตุลาฯติดค้างอยู่
ขบวนการนักศึกษาประชาชนไทย ก่อเกิดเมื่อ 14 ตุลาคม 2516 และปิดฉากเมื่อ 6 ตุลาคม 2519 ด้วยการเอาจำเลย 14 ตุลาฯ มาจุดชนวน เพื่อนำไปสู่แผนฆ่าหมู่
ถ้าสังคมไทยได้ร่วมกันเรียนรู้บทเรียน 6 ตุลาฯ
จะได้ข้อสรุปว่า อย่าตกเป็นเหยื่อการบิดเบือนข้อเท็จจริง
อย่าตกเป็นเหยื่อการปลุกเร้าให้เกลียดชังเพื่อนร่วมสังคม จนไม่เห็นคุณค่าความเป็นคนหลงเหลืออยู่
รวมไปถึงต้องเรียนรู้ว่า อุตส่าห์ต่อสู้ด้วยเลือดเนื้อและชีวิตเมื่อ 43 ปีก่อน จนล้มเผด็จการทหารได้
อุตส่าห์เบิกม่านสังคมไทยเข้าสู่ยุคประชาธิปไตยจนสำเร็จ
ไปๆ มาๆ ก็เป็นเหยื่อการบิดเบือนความจริงซ้ำแล้วซ้ำเล่า
จนสังคมไทยวันนี้กำลังจะกลับไปคล้ายๆ ก่อน 14 ตุลาฯแล้ว!
