คอลัมน์ ชกไม่มีมุม : ปรองดอง-ปฏิรูป เรื่องที่ไม่มีอยู่จริง – โดย…วงค์ ตาวัน

ปรองดอง-ปฏิรูป – มีการสร้างข่าวทำนองว่า รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กำลังจะเตรียมออกกฎหมายนิรโทษกรรมทางการเมืองครั้งใหญ่ แต่สุดท้ายผู้เกี่ยวข้องได้ออกมาปฏิเสธหนักแน่นว่าไม่เป็นความจริง ซึ่งก็พอมองได้ไม่ยากว่า กลุ่มอำนาจการเมืองในยุคปัจจุบัน คงไม่มีแนวความคิดอะไรทำนองนี้แน่ๆ
ถ้าย้อนไปดูตั้งแต่การรัฐประหารเมื่อ 22 พฤษภาคม 2557 ซึ่งชูเรื่องการสร้างความปรองดอง ทำให้คนไทยหันกลับมารักสามัคคีกัน เอามาใช้เป็นอีกเหตุผลสำคัญของการยึดอำนาจล้มรัฐบาลประชาธิปไตย
แต่เอาเข้าจริงๆ ไม่เคยเห็นความพยายามใดๆของคณะรัฐประหาร ที่จะทำให้เกิดความปรองดองขึ้นมาจริงจัง
หรือไม่เช่นนั้น คำว่าความปรองดองในความหมายของคสช.นั้น ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่แตกต่างไปจากความเข้าใจของคนทั่วไป
เพราะตั้งแต่เข้ามายึดกุมอำนาจ จะเห็นได้ว่า คสช.ก็คือตัวแทนของคู่ความขัดแย้งฝ่ายหนึ่ง และทำทุกอย่างให้ขั้วการเมืองอีกฝ่ายถูกสลายถูกทำลายไปให้มากที่สุด
จนเปรียบกันว่า คสช.ไม่สามารถจะเป็นผู้ประสานความสามัคคีได้เลย เพราะคสช.ทำตัวเป็นคู่ขัดแย้งคู่กรณีเสียเองอย่างชัดเจน!
พูดง่ายๆว่า ภารกิจของคณะรัฐประหารคมช. 19 กันยายน 2549 ที่เข้ามาเพื่อล้มอำนาจฝ่ายหนึ่ง แล้วพยายามบดขยี้ขั้วการเมืองฝ่ายนั้นให้สูญสิ้นไป
ลงสุดท้ายก็ทำไม่สำเร็จ เนื่องจากเปิดให้มีการเลือกตั้งในปี 2550 ก็แพ้อีกฝ่ายอย่างราบคาบ
ดังนั้นจึงต้องมีภาค 2 มีภาคใหม่
คณะรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 ก็คือผู้เข้ามาทำหน้าที่ต่อเนื่องจากคณะเมื่อปี 2549
หลังจากที่คณะแรก ลงมือแล้วไม่ได้ผลมากนัก
ก็ต้องมาสรุปบทเรียนว่า ยังขาดตกบกพร่องตรงไหน ทำไมไม่สำเร็จเสร็จสิ้นเสียที แล้วก็เสริมเพิ่มเข้าไป!
ดังนั้นคณะคสช. ผู้มาทำหน้าที่ต่อจากคมช. จึงต้องยึดอำนาจเป็นรัฐบาลทหารยาวนานถึง 5 ปี
พร้อมกับมีรัฐธรรมนูญ 2560 ที่เข้มข้นหนักหนาสาหัสยิ่งกว่าฉบับปี 2550
คราวนี้ มีกฎกติกาที่ทำให้ระบบพรรคการเมืองอ่อนแอ มี 250 ส.ว.ที่พร้อมโหวตนายกฯที่กำหนดเอาไว้แล้ว ทำให้เสียงประชาชนหลายล้านที่ไปเลือกตั้งส.ส.เข้ามา ไม่มีน้ำหนักเท่ากับ 250 เสียงจากการแต่งตั้ง
คณะคสช.อยู่ในอำนาจต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 6 แล้ว
ทำทุกวิถีทางที่จะอยู่ต่อไปให้ได้ยาวนาน เพื่อจัดการขั้วการเมืองอีกฝ่ายให้หมดสิ้นไปให้ได้
แต่ปัญหาก็คือ คำว่าขั้วการเมืองตรงข้ามที่พยายามกำจัดนั้น โดยลงมือมาตั้งแต่การรัฐประหาร 2549 ซ้ำด้วย 2557
ลงเอยคือการทำให้ประชาธิปไตยทั้งระบบถูกบั่นทอน
กระทบเสรีภาพประชาชน กระทบเสียงของประชาชนในการเลือกตั้งอย่างมากมายไปด้วย
คำว่าปรองดอง คำว่าปฏิรูปการเมือง จึงไม่มีจริงแต่อย่างใด!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน