คอลัมน์ ชกไม่มีมุม : พ้นวิกฤตโควิด สู่วิกฤตปากท้อง – โดย…วงค์ ตาวัน

พ้นวิกฤตโควิด สู่วิกฤตปากท้อง – หยุดยาว 4 วันที่ผ่านมา การออกเดินทางท่องเที่ยวในต่างจังหวัดคึกคักไม่น้อยเลย รถราไปหนาแน่นบนถนนสายออกจากกทม. และขากลับเข้ากทม.เมื่อสิ้นสุดวันหยุด แต่ที่น่ายินดีตรงที่ไม่มีข่าวคราวปัญหาในด้านการแพร่ระบาดของโควิดติดตามมา ดังที่รัฐบาลและศบค.ห่วงใย เน้นย้ำไม่ให้การ์ดตกในช่วงหยุดท่องเที่ยวใหญ่

ส่วนหนึ่งคงเพราะคนไทยเราเคยชินกับพฤติกรรมระมัดระวัง ป้องกันตัวเองจนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว

อีกส่วนหนึ่ง มาตรการป้องกันของรัฐบาล ก็ยังคงมีผลควบคุมอะไรต่อมิอะไรได้เรียบร้อยดี

เมื่อไม่เกิดการแพร่ระบาดอะไรอีก ย่อมเป็นเรื่องดีที่สุด

แต่อีกด้านหนึ่งต้องยอมรับว่า ผลจากการควบคุมป้องกันโรคอย่างเข้มข้นของประเทศไทยเรา จนทำได้จนตัวเลขคนป่วยคนตายดูดี เป็นที่ยอมรับในระดับสากล

ต้องดูผลอีกด้าน นั่นคือปัญหาทางเศรษฐกิจ ธุรกิจกิจการต่างๆ ได้รับผลกระทบรุนแรง!

ที่รัฐบาลค่อยๆ คลายล็อกเฟสต่างๆ ทยอยเปิดกิจการต่างๆ นั้น

มองในแง่รายได้ความเป็นอยู่ของชาวบ้าน ยังถือว่าล่าช้าอยู่มาก

เอาเข้าจริงๆ ในทุกวันนี้ มีหลายต่อหลายกิจการทยอยปิดตัวลงไปเรื่อยๆ จำนวนคนตกงานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ไม่ต้องไปมองไกลที่ไหน!?!

วันนี้ลองเดินถนนสายธุรกิจท่องเที่ยวของเมืองกรุงเทพฯ นี่แหละ

ย่านเกาะรัตนโกสินทร์ ย่านราชดำเนิน ไปจนถึงแหล่งบันเทิงที่ตลาดเป็นต่างชาติ

ยังไม่สามารถเปิดกิจการกันได้เลย

เรือทัวร์ท่องเที่ยวทางน้ำตามคลองในกทม. ก็ยังเปิดไม่ได้

ร้านอาหาร ร้านกินดื่ม ที่พักขนาดเล็กขนาดกลาง ยังเงียบเหงา ดูแล้วน่าใจหาย น่าห่วงใยทั้งเจ้าของกิจการและพนักงานลูกจ้าง

ที่พากันยินดีในการควบคุมป้องกันโรคได้ อย่าลืมหันมามองชีวิตที่ยากลำบากของคนจำนวนมาก อีกด้านหนึ่งด้วย!

ในเมืองหลวงเอง เห็นภาพเหล่านี้ได้ไม่ยาก

ยังไม่ต้องพูดเลยไปถึงเมืองท่องเที่ยวใหญ่ๆ ในหลายจังหวัด ที่ยังน่าห่วงใยในคนที่ต้องอดอยาก ไม่มีรายได้

ที่สำคัญต้องไม่ลืมว่า ปัญหาเศรษฐกิจ ชีวิตความเป็นอยู่ชาวบ้าน ที่ยังแก้ไม่ได้แก้ไม่ตก

กำลังสั่งสมเดือดระอุขึ้นเรื่อยๆ จนผู้รอบรู้ทางธุรกิจการค้าพากันเตือนว่า

นี่คือระเบิดเวลาที่ใกล้จะถึงจุดระเบิดในเร็ววันนี้!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน