ตั้งกมธ.อุ้มรัฐบาล – การตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญของสภา เพื่อรับฟังข้อเรียกร้องของเยาวชน นักเรียน นักศึกษา ซึ่งลงเอย มีแต่ฝ่ายพรรครัฐบาลที่เข้าร่วมเท่านั้น

จุดเริ่มต้นของการตั้งกรรมาธิการชุดนี้ สะท้อนให้เห็นว่า ฝ่ายรัฐบาลมีความหวั่นไหวต่อพลังของเยาวชนที่ออกมาเคลื่อนไหว

มีผลสะเทือนเขย่ารัฐบาลได้ไม่น้อยเลย

แต่วิธีการตั้งกรรมาธิการนี้ ซึ่งพรรคฝ่ายค้านทั้งหมด ปฏิเสธไม่เข้าร่วม

โดยฝ่ายค้านอธิบายชัดเจนว่า ไม่ขอร่วมเป็นตรายาง รับรองความชอบธรรมให้รัฐบาล

เพราะกรรมาธิการก็คงไปรับฟังจริง พูดคุยกับเยาวชนที่ออกมาเคลื่อนไหวจริง แต่ก็แค่ฟังไปเรื่อย ซื้อเวลาให้รัฐบาลไปเรื่อย ลงเอยไม่มีผลอะไรตามที่เรียกร้อง

แล้วกรรมาธิการก็คงประชุมสรุปรวบรวมปัญหาเอาไปเสนอต่อ จากนั้นรัฐบาลก็คงจะตอบว่ายินดีรับฟัง จะเอาไปพิจารณาต่อไป

ก็คือลดอุณหภูมิ ยื้อเวลาไปเรื่อยๆ

ฝ่ายค้านจึงไม่ขอเข้าร่วม ทั้งชี้ว่า เรื่องนี้เป็นปัญหาของรัฐบาลที่ต้องไปแก้เองโดยตรง

โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีนั่นแหละ คือเป้าหมายที่เยาวชนเรียกร้องให้ออกไป ซึ่งจะต้องแก้ปมประเด็นเหล่านี้เอง

ขณะที่แกนนำเยาวชนเองก็มองว่า คณะกรรมาธิการชุดนี้ แค่ปาหี่

ทั้งท่าทีฝ่ายค้าน ทั้งมุมมองของนักเรียนนักศึกษา เท่ากับว่า หมากตานี้คงล้มเหลว!

วิธีการอาศัยสภามาอุ้มรัฐบาล น่าจะไปต่อไม่ได้

นายกฯและรัฐบาล คงต้องรับศึกนี้เอง ต้องเผชิญหน้ากับพลังคนรุ่นใหม่เอง

แต่แน่นอน โดยธรรมชาติของผู้ที่กุมอำนาจ ยิ่งไม่ใช่นักการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย

ไม่มีทางจะยอมถอยง่ายๆ !!

ระหว่างนี้ก็คงรับฟังรายงานแนวเอาใจ ทำนองจำนวนผู้ชุมนุมไม่มากมายอะไร พวกเด็กๆ ไร้เดียงสา เดี๋ยวคงแผ่วไปเอง ทำนองนั้น

ขณะเดียวกัน บรรดากองหนุนกองเชียร์ ก็คงจะออกมาหมิ่นหยามเด็กไปเรื่อยๆ

ยิ่งคนพวกล้าหลังแสดงทัศนคติของคนโลกเก่า ก็กลับยิ่งตอกย้ำให้นักเรียนนักศึกษามั่นใจว่า ที่ต่อสู้ให้เปลี่ยนแปลงนี้ คือการสร้างอนาคตจริงๆ

จะปล่อยให้คนเก่าๆ ล้าหลัง ฉุดรั้งบ้านเมืองต่อไปได้อย่างไร

คิดดูแล้วกัน พอตอบไม่ได้ว่าทำไม 250 ส.ว.จึงมีอำนาจกว่าเสียงประชาชนนับล้าน ก็ใช้วิธีเชยๆ ไล่เด็กกลับไปเรียนหนังสือ!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน